บอกต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม!

บอกต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม!

15 May 2023

          รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ EV เป็นรถยนต์ที่พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขับเคลื่อนรถยนต์ โดยไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และปล่อยก๊าซเสียจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงออกมาเหมือนรถยนต์เติมน้ำมันทั่วไป  สามารถใช้อัตราเร่งตามความต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์ เสียงการทำงานของเครื่องยนต์และเเบตเตอรี่เบากว่าหลายเท่า นับเป็นการใช้งานรถยนต์ที่คุ้มค่าและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมผ่านการใช้งานรถยนต์ในชีวิตประจำวันอย่างยั่งยืน
         แต่ว่า การใช่งานรถยนต์ไฟฟ้ามีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง อย่างน้อยก็เป็นแหล่งชาร์จพลังงานไฟฟ้า ถ้าเทียบกับการเติมน้ำมันรถยนต์ทั่วไป การขับรถยนต์ไฟฟ้านั้นถือว่าคุ้มกว่าแน่นอน แต่วิธีการใช้งานก็จะถือว่าแตกต่างกันออกไป  Mr.OOHOO บอกต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จรถไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม หากต้องการใช้งานในระยะยาวและทริคดีๆที่เพื่อนๆไม่ควรพลาด ที่สำคัญ Mr.OOHOO ขอนแนะนำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด ต้อง OOHOO.io เลยครับ มีแผนเทียบประกันภัยให้เลือกซื้อหลายราคา สามารถกดซื้อเองได้ง่ายที่บ้าน ตลอด 24 ชั่วโมงเพราะเป็นประกันออนไลน์ รองรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท มีให้เลือกหลายชั้น โปรโมชั่นสุดคุ้มจุใจ ผ่อนได้ 0 % แม้ไม่มีบัตรเครดิต 

 

Mr.OOHOO บอกต่อเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม!

 

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ระดับ 100 % แล้วต้องใช้งานทันที

           แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน (Lithium-ion) เป็นแบตเตอรี่ที่นิยมนำมาใช้สำหรับให้พลังงานรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดเพราะมีน้ำหนักเบา ให้พลังงานสูง สามารถที่จะชาร์จครั้งเดียวแล้วเดินทางไปได้ไกลหลายกิโลเมตร จึงเป็นเหตุผลที่บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่เลือกใช้แบตเตอรี่ประเภท แต่ข้อจำกัดของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน คือ  ไม่สามารถ 'โอเวอร์ชาร์จ ได้ ถ้าแบตเต็ม 100% แล้วชาร์จต่อ  จะทำให้ไฟจะไม่เข้าแบตเตอรี่ แต่จะเข้าไปที่อุปกรณ์โดยตรง ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ดังนั้น ถ้าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจนเต็ม 100% แล้วควรใช้รถเลย ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน


เปิดแอร์รถยนต์ไฟฟ้ารอก่อนถอดสายชาร์จ

          สาเหตุที่ควรเปิดเเอร์รถยนต์ก่อนถอดสายชาร์จก็เพราะแอร์ในรถยนต์จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากเเบตเตอรี่ในการลดอุณหภูมิมากกว่าใช้รักษาอุณหภูมิให้คงที่ หากเราถอดปลั๊กชาร์จไฟแล้วค่อยเปิดแอร์ พลังงานในแบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สูญเสียพลังงานไฟฟ้าที่พึ่งชาร์จไป กลายเป็นว่าระยะทางในการเดินทางที่วิ่งรถยนต์ก็จะน้อยลง ดังนั้น เคล็ด(ไม่ลับ) สำหรับการชาร์จรถยนต์ที่คุ้มและไว คือ การควบคุมและรักษาอุณหภูมิภายในรถก่อนจะถอดปลั๊กสายชาร์จไฟฟ้านั่นเอง



ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

รับกรมธรรม์ได้เลย ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ระดับ 80 % คุ้มและไวที่สุด


         ปัจจุบันเทคโนโลยีการชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า( EV Charging ) จากตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามแปล่งชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แบ่งออก เป็น 2 ระบบ คือ 
         AC Charge หรือการชาร์จไฟแบบธรรมดา ชาร์จพลังงานไฟฟ้าโดยจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสสลับซึ่งต้องใช้เวลาในการชาร์จนานเพราะการปล่อยกระเเสไฟค่อนข้างน้อย หากชาร์จเต็ม 100 % อาจจะใช้เวลาประมาณ 7-10 ชั่วโมง ดังนั้น การชาร์จไฟฟ้าในรูปแบบนี้เหมาะสำหรับการชาร์จประจุไฟฟ้าที่ สำนักงาน หรือที่จอดรถสาธารณะที่สามารถเปิดให้จอดรถยนต์ได้เป็นระยะเวลานาน



        Tips : 
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย AC Charge สำหรับใช้เดินทางประจำวันควรรักษาระดับแบตเตอรี่อยู่ที่  80-90%  ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการชาร์จ คือ กลางคืน ช่วยลดค่าใช้จ่าย (กรณีมิเตอร์ใช้ TOU) 
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย AC Charge ให้เต็ม 100% อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้ระบบทำการปรับสมดุลแรงดันภายใน
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย AC Charge จากที่บ้านควรใช้กระแสไฟฟ้าให้น้อยที่สุดในการชาร์จ โดยไม่กระทบต่อการใช้งาน และไม่ควรปล่อยให้ระดับแบตเตอรี่ให้ต่ำกว่า 10% ซึ่งหลักการนี้ใช้ได้กับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภท



         DC Charge หรือการชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) จะเป็นการจ่ายไฟฟ้ากระแสตรง ใช้เวลาสั้นๆ ตั้งแต่ 30 นาที แต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ 0-80% ซึ่ง การชาร์จไฟฟ้ากระแสตรงมักเป็นการใช้งานในแหล่งสาธารณะตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งต้องการความรวดเร็วในการชาร์จประจุไฟฟ้า



          Tips : 
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย DC Charge โดยรักษาระดับแบตเตอรี่อยู่ที่ 80% เพียงพอต่อการใช้งานในประจำวัน 
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย DC Charge สำหรับเน้นใช้ตอนขับเดินทางไกล ควรเผื่อระดับแบตเตอรี่ไปถึงอีกจุด 10-20% ได้ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และไม่ควรปล่อยให้แบตต่ำกว่า 20%
- ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย DC Charge ให้เต็ม 100% อย่างน้อยเดือนละครั้งจะทำให้เซลล์ทุก ๆ โมดูลได้มีการชาร์จประจุเข้าไปด้วย ไม่งั้นบางโมดูลในช่วง 80-100% จะไม่ได้มีการอัดไฟเลย นาน ๆ ไปจะเสื่อม และเก็บประจุไม่ได้



        Mr.OOHOO เคยรวบรวม ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC กับ DC Fast charge แบบไหนดีกว่ากัน? มาให้ศึกษากันเเล้ว สามารถไปย้อนอ่านกันได้เลยครับ  แต่สำหรับเคล็ด(ไม่)ลับ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไงให้คุ้มและใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าน้อยที่สุด คือ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ระดับ 80 % โดยใช้ระบบการชาร์จแบบ DC quick charge เพราะการชาร์จไฟฟ้าที่ระดับ 80 % จะเป็นการชาร์จที่เร็วที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที จากนั้นตู้ชาร์ไฟฟ้าจะจ่ายไฟฟ้าน้อยลง ส่งผลทำให้การชาร์จช้าลง เเละเพื่อเป็นการถนอมตัวแบตเตอรี่อีกด้วย 
        ถ้าเพื่อน ๆ อยากเช็กสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เข้าไปดูได้ที่ พิกัดจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล อัพเดทปี 2566 



           อู้หู! ทริคง่ายๆ ที่ Mr.OOHOO เอามาฝากในบทความนี้ ทำตามไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ หวังว่าเพื่อนๆ คงจะรู้วิธีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้มกันเเล้ว แต่ถ้าจะให้คุ้มขึ้นไปอีก ต้องซื้อประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าติดรถเอาไว้ด้วยครับ เพราะมีกรมธรรม์คุ้มครองรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ดีกว่า ปลอดภัยหายห่วง ขอแนะนำ OOHOO.io แหล่งรวมประกันภัยรถยนต์ที่มีแผนประกันภัยจากบริษัทชั้นนำให้เลือกเทียบราคาได้เอง ประกันออนไลน์ ซื้อได้ง่ายๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายๆในเว็บเดียว ที่สำคัญมีเเพ็กเกจให้เลือกมากมายและโปรโมชั่นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสุดคุ้ม แจกจุใจขนาดนี้ อย่ารอช้า


เช็คเบี้ยเลย!


ข้อมูลจาก : ananindustry / bimmer-th / boxzaracing