กรมธุรกิจพลังงานประกาศปรับลดหัวจ่ายน้ำมันดีเซลเหลือ 2 ชนิด เริ่มแล้ว 1 พ.ค. 2567 นี้

           ท่ามกลางความร้อนระอุของอากาศประเทศไทยในเดือนพฤษภาคม ราคาน้ำมันปรับตัวพุ่งสูงขึ้น ผกผันกับกระแสเศรษฐกิจโลกอย่างเข้มข้น ล่าสุด กรมธุรกิจพลังงานประกาศปรับลดหัวจ่ายน้ำมันดีเซลเหลือ 2 ชนิด จากเดิมที่มีชนิดน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว 3 เกรด และกำหนดให้สถานีบริการน้ำมันทุกแบรนด์ดำเนินการตามนโยบายนี้ 
           บทความนี้ Mr.OOHOO มาอัพเดตข่าว พร้อมเตือนเพื่อน ๆ ทุกคนระวังเติมน้ำมันผิด พร้อมทั้งชี้ทางออกหากเกิดเหตุการณ์เติมน้ำมันผิดครับ 

จากข้อมูลล่าสุด กรมธุรกิจพลังงานยกเลิกน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 10 (น้ำมันบี 10) มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 และกำหนดให้มีน้ำมันดีเซลแค่ 2 ชนิด  
1. ดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (HSD B10 ) :  กำหนดให้ยกเลิกการจำหน่าย
2.น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B 7) :  น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลร้อยละ 7 โดยปริมาตร (สีน้ำมัน : สีเหลือง) เป็นน้ำมันดีเซลฐานของประเทศ เนื่องจากสามารถใช้งานกับรถยนต์ในปัจจุบันได้ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ 
*หมายเหตุ : ทดแทนแทน HSD B10 ที่ถูกยกเลิกไป 
3.น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 (B 20) : น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมไบโอดีเซลร้อยละ 20 โดยปริมาตร (สีน้ำมัน : สีแดง) เป็นน้ำมันทางเลือก สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่

           ปัจจุบันน้ำมันบี 10 และน้ำมันบี 7 มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลที่เท่ากัน การที่น้ำมันบี 7 ถูกผสมโดยน้ำมันบี 10 จึงไม่มีผลต่อคุณภาพน้ำมัน ยกเว้นสีที่จะผิดเพี้ยนไปจากที่กำหนดเล็กน้อย ดังนั้น กรมธุรกิจพลังงานจึงได้ผ่อนผันเรื่องสีของน้ำมันเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2567 

           สำหรับเพื่อน ๆ ที่พลาดเติมน้ำมันผิดก็ไม่ต้องเป็นกังวลกันนะครับ การแก้ไขปัญหาการเติมน้ำมันผิด คือ การถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่ออกให้หมด และก็เติมน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ที่ถูกต้องลงไปแทน แค่นั้นแหล่ะครับ แต่กระบวนการก็จะต่างออกไปขึ้นอยู่กับ 2 กรณี ดังนี้ 
           1.เติมน้ำมันผิด แล้วยังไม่สตาร์ทรถ ถือว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ วิธีแก้ไข คือ  ถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงออกให้หมดถัง พร้อมไล่ระบบทางเดินของน้ำมันเชื้อเพลิง แล้วก็เติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกต้องเข้าไปใหม่ หลังจากนั้นค่อยสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้สักพักนึงเพื่อสังเกตว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือไม่ ทดลองเร่งเครื่อง เปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่เคยใช้เวลาขับปกติ ถ้าหากทุกอย่างมันโอเค ก็แปลว่า สามารถใช้งานต่อได้เลย
           2.เติมน้ำมันผิด แล้วสตาร์ทรถ แน่นอนว่า หากไม่รู้ตัวว่าเติมน้ำมันผิด แล้วใช้งานรถยนต์ตามปกติ คนขับจะรู้ตัวทันทีเมื่อ ตอนรถดับกลางทาง สิ่งที่สำคัญก็คือ มันดับไปแล้วก็อย่าเพิ่งไปพยายามสตาร์ทมันอีกในขณะที่น้ำมันเชื้อเพลิงผิดยังอยู่ในถัง เพราะว่าจะยิ่งทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผิดเข้าระบบลึกไปเรื่อย ๆ สิ่งที่ต้องทำก็คือ  โทรหาประกันก่อนเลยครับ ใช้บริการรถยก รถลากกลับปั๊มเลย ซึ่งปกติแล้วการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงผิด รถยนต์จะวิ่งไปได้ไม่เกิน 5 กม. บวกลบไม่เกินนี้หรอกครับ 
           เมื่อถึงปั๊มแล้ว ขั้นตอนสำคัญ คือ ตรวจสอบความผิดพลาดเพื่อนำข้อมูลเป็นหลักฐานในการแจ้งเคลมประกัน  ถ้าการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงผิดเกิดจากพนักงานปั๊ม เจ้าหน้าที่ประกันช่วยเจรจากับปั๊มได้  เพราะปั๊มน้ำมันจะต้องออกหนังสือให้เราเป็นทางการว่าเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เราผิดจริง ถ้าเราเก็บใบเสร็จไว้ จะง่ายกว่าเพราะว่าเป็นการยืนยัน หรือบางครั้งอาจจะต้องมีการขอภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติมด้วย
          กรณีที่เติมน้ำมันเชื้อเพลิงผิดจากการผิดพลาดของคนขับเอง ประกันไม่คุ้มครองนะครับ แต่ถ้าเป็นพนักงานปั๊มเติมให้เราผิด แบบนี้ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะคุ้มครองในหมวด “ความเสียหายต่อรถยนต์” ซึ่งจะต้องมีหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด, ใบเสร็จ ฯลฯ เพราะบริษัทประกันจะไปเรียกค่าเสียหายจากปั๊มอีกทีครับ วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ เสียเวลาซะหน่อยครับ ระวังให้ดีว่าเค้าเติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้เราถูกต้องเพราะเติมผิดขึ้นมาคนที่เสียหายที่สุดก็คือเจ้าของรถอย่างเรานะครับ

           สำหรับรถยนต์คันโปรด ต้องมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ติดรถไว้ เลือกซื้อประกันออนไลน์ได้ด้วยตัวเองที่ OOHOO.io เปรียบเทียบแผนความคุ้มครอง ซ่อมอู่ ซ่อมห้าง มีครบทุกแผนประกัน เช็กราคาเบี้ยได้ง่าย ๆ ผ่านแพลตฟอร์ม OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ คัดสรรแพ็กเกจชั้นยอดจากหลายบริษัทประกันชั้นนำนิยมทั่วประเทศ รับกรมธรรม์ออนไลน์ คุ้มครองทันทีหลังกดซื้อ
ที่มาข้อมูล : bangkokbiznews / gcc.go.th