เคยสงสัยไหมว่าทำไมเราต้องต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ทุกปี? บางคนอาจจะคิดว่า "ต่อไปทำไม? รถเราก็ไม่ได้ชนใครซะหน่อย!" แต่เพื่อน ๆ รู้มั้ยว่าการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าที่เราคิด มันเหมือนการใส่หมวกกันน็อก แม้จะไม่เห็นผลทันที แต่ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น เพื่อน ๆ จะดีใจที่ได้ทำ!
นอกจากนี้ หลายคนยังไม่รู้ว่า พ.ร.บ. กับประกันรถยนต์มันคนละเรื่องกันเลย! ถ้าอยากอยากรู้ว่าอะไรต่างกันบ้าง และทำไมต้องต่อ พ.ร.บ. ทุกปี มาเช็กข้อมูล ที่ Mr.OOHOO เทียบความต่างระหว่าง พ.ร.บ. รถยนต์ และประกันรถยนต์แบบยกต่อยกกันดีกว่า!
พ.ร.บ. รถยนต์ ต่างจาก ประกันรถยนต์อย่างไร?
พ.ร.บ. รถยนต์ คืออะไร?
พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ ประกันภัยภาคบังคับ เป็นประกันที่กฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องทำก่อนต่อทะเบียนรถ โดยคุ้มครองเฉพาะ ชีวิตและร่างกายของบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคนเดินถนน แต่ ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์
พ.ร.บ. รถยนต์ คุ้มครองอะไรบ้าง?
- ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ สูงสุด 80,000 บาท ต่อคน
- ค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร สูงสุด 500,000 บาท
- ค่าชดเชยระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล วันละ 200 บาท (ไม่เกิน 20 วัน)
ถ้าไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ จะเกิดอะไรขึ้น?
1.ผิดกฎหมาย
พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ. รถยนต์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 หากไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ อาจถูกปรับสูงสุด 10,000 บาท และไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้
2.ต่อภาษีรถยนต์ไม่ได้
กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถทุกคันต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี ถ้าไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ จะไม่สามารถชำระภาษีและต่ออายุทะเบียนรถได้
3.ไม่มีค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
หากเกิดอุบัติเหตุและไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด เนื่องจากพ.ร.บ. รถยนต์ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลสูงสุด 80,000 บาท/คน และค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตสูงสุด 500,000 บาท ดังนั้น ถ้าขับรถไปชนคนอื่นและไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์อาจต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณีเอง
4.โดนปรับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเรียกตรวจสอบได้ หากพบว่าไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์อาจถูกปรับทันที จำไว้ว่าการไม่ทำ พ.ร.บ. รถยนต์เท่ากับการฝ่าฝืนกฎหมาย
