เช็กด่วน! 10 สัญญาณเตือนรถยนต์ผิดปกติ

เช็กด่วน! 10 สัญญาณเตือนรถยนต์ผิดปกติ

09 Sep 2024

               รถยนต์ที่เราขับกันอยู่ทุกวัน ถ้ามีอะไรผิดปกติ เราก็คงรู้สึกได้อยู่แล้ว ดังนั้น หน้าที่ของคนขับก็ต้องหมั่นตรวจเช็กรถยนต์เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน บทความนี้ Mr.OOHOO พามาตรวจเช็กรถเบื้องต้นกับ 10 สัญญาณเตือนอาการผิดปกติ จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูพร้อมกันได้เลยครับ!

               ก่อนไปเช็กสัญญาณเตือนรถยนต์มีปัญหา เช็กประกันรถยนต์ว่าประกันขาดหรือไม่ สนใจต่อประกันรถยนต์ ที่ OOHOO.io เป็นประกันออนไลน์ ซื้อง่ายตลอด 24 ชั่วโมง มีแพ็กเกจให้เลือกหลากหลายจากบริษัทประกันชั้นนำยอดฮิต

1. สัญญาณเตือน
               เราสามารถรับสัญญาณบอกอาการผิดปกติของรถได้โดยการใชประสาททั้ง 5 คือ การเห็น การฟัง การได้กลิ่น การจับต้องชิ้นส่วนนั้นๆ และการลองขับดู ถ้าสังเกตพบสิ่งผิดปกติต่อไปนี้ ให้รีบทําการตรวจเช็กและซ่อมแซมโดยเร็วก่อนที่จะเกิดความเสียหายต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม

2. เครื่องยนต์
                เครื่องยนต์ คือ หัวใจของรถ ถ้าเครื่องยนต์มีอาการดังนี้
 - เครื่องร้อนจัดเกินไป ขับไปได้ไม่เท่าไรความร้อนก็สูงขึ้น
 - เครื่องเย็นเกินไป แม้จะขับมาระยะทางไกลพอสมควรแลว เข็มวัดอุณหภูมิยังไม่กระดิก
 - มีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ (ควรนํารถเขาตรวจสภาพที่ศูนย์บริการรถยนต์โดยตรง)

3.นํ้ามันหล่อลื่น
               ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบนํ้ามันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับรถยนต์ หมายถึง เครื่องยนต์กําลังทํางานในขณะที่มีนํ้ามันหล่อลื่นน้อย รีบนํารถยนต์เข้าอู้่ที่ใกล้ที่สุดทันที ถ้าอู่อยู่ไกลให้เติมนํ้ามันเครื่องใส่ลงในถังนํ้ามันหล่อลื่นไปกอน เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ถ้าเป็นสาเหตุอื่นที่ไม่ใ้ชนํ้ามันหล่อลื่นแห้ง ควรใช้รถยกไปอู่ซอมทันที การตรวจเช็กเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นของนักขับรถที่ดี หากขาดการตรวจเช็กตามกําหนดเวลาหรือละเลย อาจทําให้รถเกิดความเสียหายลุกลามไปจนถึงการเกิดอุบัติเหตุตามมาได้

4. พวงมาลัย
                ที่มีปัญหาเหล่านี้ จะทําให้อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ยาง และเกียร์พวงมาลัย ชํารุดตามไปด้วย
 - พวงมาลัยหนักหรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว
 - พวงมาลัยหลวมเกินไป โดยมีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว
 - พวงมาลัยสั่นในขณะขับ (ควรนํารถเข้าศูนย์บริการรถยนต์โดยตรง)

5. เกียร์
                จะทําหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์้ใหเหมาะสมกับความเร็ว สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหา คือ
 - มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่
 - เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน
 - มีเสียงดังขณะเข้าเกียรทั้งๆ ที่เหยียบคลัตช์แล้ว
 - ห้องเกียรมีนํ้ามันหล่อลื่นไหลออกมา (ควรนํารถเข้าอูตรวจสอบห้องเกียร์)



ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

รับกรมธรรม์ได้เลย ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



6.  ยาง
                การสึกหรอของดอกยางแบบต่างๆ สามารถบอกความผิดปกติของสภาพยางได้ ดังนี้ 
 - ดอกยางตรงกลางล้อสึกหรอมากกว่าขอบแสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป
 - ดอกยางขอบล้อสึกหรอมากกว่าตรงกลางแสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป
 - ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่งแสดงวามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง
 - ดอกยางเป็นบั้งๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ (ควรนํารถเขาอู่เพื่อติดตั้งศูนย์ลอหรือปรับแรงดันลมยางใหม่)
7. เบรก
                ถ้าพบวาเบรกมีอาการผิดปกติต้องรีบแก้ไขทันที เพราะเบรกชํารุดนํามาซึ่งอุบัติเหตุได้ง่ายที่สุด
 - เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยนํ้า
 - เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง
 - แป้นเบรกจมลึกลงไปทั้งๆ ที่ถอนเท้าออกมาแล้ว (ควรนํารถเข้าอู่ซ่อมเบรกทันที)
8. คลัตช์
               คลัตช์ที่มีปัญหาจะทําให้ควบคุมเกียรไม่ได้ อย่าละเลยสัญญาณอันตรายต่อไปนี้
 - คลัตช์ลื่น หรือเข้าคลัตช์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตช์แล้วแต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก
 - คลัตช์มีเสียงดังเมื่อเหยียบแป้นคลัตช์
 - แป้นคลัตช์สั่นขึ้นๆ ลงๆ ขณะกําลังขับ 
(ควรนํารถเข้าอู่ซ่อมช่วงลาง หรือควรนําเขาตรวจสภาพที่ศูนย์บริการรถยนต์โดยตรง)
9. หลอดไฟ
               หลอดไฟขาดบ่อยๆ หรือต้องเติมนํ้ากลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า “เรกูเลเตอร์” ซึ่งทําหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมเกิดการชํารุด ควรนํารถเขาอู่ระบบไฟเพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชํารุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่
10. ไฟชาร์จ
               ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่เราสตาร์ทเครื่องยนต์ และเมื่อสตาร์ทติดแล้วครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชารจไม่สว่าง หรือสว่างแลวไม่ยอมดับอาจเกิดจากไดชารจผิดปกติหรือสาเหตุอื่นๆ ก็ได ้แต่ที่แน่ๆ คือ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนํารถเข้าอู่ไดชาร์จหรือระบบไฟฟ้า


               ตรวจเช็กรถยนต์เบื้องต้นกับ10 สัญญาณเตือนอาการผิดปกติ ไปแล้ว สิ่งสำคัญ คือ สติในการขับรถ มีสมาธิและประมาท รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด สุดท้ายต้องมีประกันรถยนต์กันด้วย รถยนต์ก็ต้องการความคุ้มครอง ที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์จากหลายบริษัทประกันชั้นนำ  เบี้ยประกันรถยนต์ ทุนประกัน บริการเสริมช่วยเหลือฉุกเฉิน  เทียบราคาได้ง่าย ๆ จากที่ไหนก็ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง


               พิเศษ! ประกันรถยนต์ชั้น 1 ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน หารเท่า* ตอบโจทย์คนรักรถยนต์ตัวจริง! หั่นราคาเบี้ยประกันหารเท่า! พร้อมยกทัพเอาความคุ้มครองเสริมพิเศษแบบจัดเต็ม! รับกรมธรรม์ออนไลน์ พร้อมให้ความคุ้มครองทันที!


ที่มาข้อมูล : กรมขนส่งทางบก