เกจวัดหน้าปัดรถคืออะไร? รวมความหมายเกจวัดและไฟเตือนที่ควรรู้

เกจวัดหน้าปัดรถคืออะไร? รวมความหมายเกจวัดและไฟเตือนที่ควรรู้

07 Oct 2025

เกจวัดต่าง ๆ บนหน้าปัดรถหมายถึงอะไรบ้าง?

       หลายคนที่ขับรถเป็นประจำคงคุ้นตากับ หน้าปัดรถยนต์ ที่เต็มไปด้วยตัวเลข เข็มวัด และสัญลักษณ์ไฟเตือนต่าง ๆ แต่เชื่อว่ามีไม่น้อยที่ยังไม่เข้าใจความหมายของเกจวัดเหล่านี้อย่างแท้จริง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เกจวัดและไฟเตือนต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ขับรับรู้สภาพการทำงานของรถ และเตือนเมื่อเกิดความผิดปกติได้ทันท่วงที

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจทีละส่วนว่า เกจวัดบนหน้าปัดรถหมายถึงอะไรบ้าง เพื่อให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้น

1. เกจวัดความเร็ว (Speedometer)

เกจวัดความเร็วเป็นหนึ่งในเกจพื้นฐานที่ทุกคันต้องมี ใช้แสดงความเร็วของรถในหน่วยกิโลเมตรต่อชั่วโมง (km/h) หรือบางรุ่นอาจมีไมล์ต่อชั่วโมง (mph) เพิ่มด้วย

  • ความสำคัญ:
    การรักษาความเร็วให้เหมาะสมช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และหลีกเลี่ยงการถูกปรับจากการขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด

  • ทิปส์เพิ่มเติม:
    ผู้ขับควรสังเกตป้ายจำกัดความเร็วของแต่ละพื้นที่ และไม่ควรขับเร็วเกินไปโดยเฉพาะในเขตชุมชนหรือพื้นที่ที่มีคนสัญจรจำนวนมาก

2. เกจวัดรอบเครื่องยนต์ (Tachometer)

เกจวัดรอบเครื่องจะแสดงจำนวนรอบการหมุนของเครื่องยนต์ในหนึ่งนาที (RPM – Revolutions Per Minute) โดยทั่วไปหน้าปัดจะมีตัวเลขตั้งแต่ 0 – 8 หรือ 0 – 10

  • ความสำคัญ:
    การสังเกตรอบเครื่องช่วยให้ผู้ขับรู้ว่าเครื่องยนต์กำลังทำงานหนักเกินไปหรือไม่ หากเข็มขึ้นสูงเกินไปจนเข้าโซนสีแดง อาจทำให้เครื่องยนต์สึกหรอหรือเสียหายได้

  • ทิปส์เพิ่มเติม:
    เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถเกียร์ธรรมดา เพื่อเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมกับรอบเครื่อง และช่วยประหยัดน้ำมัน

3. เกจวัดระดับน้ำมัน (Fuel Gauge)

เกจน้ำมันจะแสดงปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถัง โดยมีทั้งแบบเข็มวัดและแบบดิจิทัล

  • ความสำคัญ:
    ช่วยให้ผู้ขับวางแผนเติมน้ำมันได้ทันท่วงที ไม่ปล่อยให้รถน้ำมันหมดกลางทาง

  • ข้อควรระวัง:
    การขับรถจนไฟน้ำมันเตือนขึ้นบ่อย ๆ อาจทำให้ตะกอนในถังน้ำมันถูกดูดเข้าไปในระบบเชื้อเพลิง ส่งผลให้ปั๊มน้ำมันเสียหายได้

4. เกจวัดอุณหภูมิเครื่องยนต์ (Temperature Gauge)

เกจวัดอุณหภูมิเป็นหนึ่งในเกจที่สำคัญที่สุด เพราะช่วยบอกว่าเครื่องยนต์ทำงานที่อุณหภูมิปกติหรือไม่

  • ความสำคัญ:
    หากเข็มขึ้นไปอยู่ในโซนร้อนหรือสูงผิดปกติ แสดงว่าเครื่องยนต์กำลังร้อนเกินไป (โอเวอร์ฮีท) ซึ่งอาจเกิดจากน้ำหล่อเย็นขาด หม้อน้ำรั่ว หรือพัดลมระบายความร้อนเสีย

  • สิ่งที่ควรทำ:
    หากพบว่าเกจแสดงอุณหภูมิสูง ควรหยุดรถในที่ปลอดภัย ดับเครื่อง และตรวจสอบระบบระบายความร้อนทันที ไม่ควรฝืนขับต่อ

5. ไฟเตือนบนหน้าปัดรถที่ควรรู้

นอกจากเกจวัดหลัก ๆ แล้ว รถยนต์ยังมี ไฟสัญญาณเตือน ที่ผู้ขับควรเข้าใจ เพราะเป็นตัวบอกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบต่าง ๆ ของรถ เช่น

  • ไฟแบตเตอรี่ – แสดงว่าระบบไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่อาจมีปัญหา
  • ไฟน้ำมันใกล้หมด – เตือนให้เติมน้ำมันทันที
  • ไฟเครื่องยนต์ (Check Engine) – อาจเกิดจากระบบไอเสีย เซ็นเซอร์ หรือเครื่องยนต์มีความผิดปกติ
  • ไฟเบรกมือ/ระบบเบรก – หากขึ้นขณะขับ ควรหยุดตรวจสอบทันที
  • ไฟถุงลมนิรภัย (Airbag Warning) – บ่งบอกว่าระบบถุงลมอาจไม่พร้อมใช้งานหากเกิดอุบัติเหตุ
  • ไฟแรงดันน้ำมันเครื่อง – แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องต่ำหรือแรงดันไม่ปกติ

6. เกจและไฟเสริมในรถรุ่นใหม่

รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ โดยเฉพาะรถไฮบริดและรถไฟฟ้า (EV) อาจมีเกจเพิ่มเติม เช่น

  • เกจวัดแบตเตอรี่รถ EV – บอกระดับพลังงานไฟฟ้าที่เหลือ
  • เกจพลังงาน (Power/Eco/Charge) – บอกโหมดการทำงานของรถไฮบริด
  • ไฟแจ้งเตือนระบบช่วยขับ (ADAS) – เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหรือระบบควบคุมการทรงตัว

7. ทำไมผู้ขับถึงควรรู้จักเกจวัดและไฟเตือนเหล่านี้?

  • เพื่อ ป้องกันความเสียหายร้ายแรงของเครื่องยนต์และระบบต่าง ๆ
  • เพื่อ ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ทั้งต่อตัวเองและผู้ร่วมทาง
  • เพื่อ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
  • เพื่อ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ โดยเฉพาะเวลาเดินทางไกล

       เกจวัดและไฟเตือนต่าง ๆ บนหน้าปัดรถยนต์เป็นเหมือน “ผู้ช่วยคนสำคัญ” ที่บอกสภาพการทำงานของรถแบบเรียลไทม์ การทำความเข้าใจและหมั่นสังเกตทุกครั้งที่ขับรถ จะช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย ประหยัด และยืดอายุการใช้งานของรถได้อีกยาวนาน

       ดังนั้น ก่อนออกรถทุกครั้ง อย่าลืมมองหน้าปัดรถของคุณ เพราะข้อมูลเล็ก ๆ ตรงนั้น อาจช่วยคุณหลีกเลี่ยงปัญหาใหญ่ได้ เข้าใจเกจวัดหน้าปัดรถแล้ว อย่าลืมปกป้องรถและตัวคุณเองให้ครบทุกมิติ เลือก ประกันรถยนต์ที่เหมาะสม เพื่อความอุ่นใจทุกครั้งที่ออกเดินทาง



ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% <br/>ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด <br/>เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย <br/>เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง <br/>จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

รับกรมธรรม์ได้เลย <br/>ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ<br/>เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ