พ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์ยังจำเป็นไหม? ราคาเท่าไหร่ พร้อมข้อดี–ข้อควรรู้ก่อนทำ

พ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์ยังจำเป็นไหม ราคาเท่าไหร่? มาดูกัน!

       หลายคนอาจสงสัยว่า “พ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์” ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้ โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ที่โครงสร้างและวัสดุได้รับการเคลือบป้องกันจากโรงงานแล้ว แต่ความจริงคือ “ยังจำเป็นในบางกรณี” โดยเฉพาะถ้ารถของคุณต้องใช้งานในพื้นที่เสี่ยง เช่น ถนนเปียกชื้น ฝนตกบ่อย หรือบริเวณใกล้ทะเลที่มีไอเกลือสูง

พ่นกันสนิมคืออะไร?

       การพ่นกันสนิมคือการเคลือบชั้นฟิล์มบาง ๆ ใต้ท้องรถด้วยสารกันสนิม เพื่อป้องกันการเกิดสนิมจากความชื้น น้ำ หรือเกลือที่เกาะใต้ท้องรถ โดยจะช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างเหล็ก และลดโอกาสเกิดการผุกร่อนในระยะยาว

พ่นกันสนิมจำเป็นไหม? ดูจากลักษณะการใช้งานของคุณ

• จำเป็นสำหรับรถใช้งานในพื้นที่ชื้นหรือติดทะเล
  เพราะมีโอกาสเจอความชื้นและไอเกลือสูง สนิมเกิดง่ายกว่าปกติ

• จำเป็นสำหรับรถที่จอดกลางแจ้งหรือขับลุยน้ำบ่อย
  ฝน น้ำขัง หรือโคลน อาจทำให้เกิดสนิมใต้ท้องรถได้ง่าย

• ไม่จำเป็นมากสำหรับรถใหม่ที่มีการเคลือบกันสนิมจากโรงงาน
  โดยเฉพาะรถระดับกลางถึงพรีเมียมที่มีระบบป้องกันสนิมมาตั้งแต่ผลิต

พ่นกันสนิมราคาเท่าไหร่?

ราคาพ่นกันสนิมขึ้นอยู่กับยี่ห้อผลิตภัณฑ์และขนาดของรถ โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ

ประเภทรถ                      ราคาพ่นกันสนิม (โดยประมาณ)

รถเก๋งขนาดเล็ก               1,500 – 2,500 บาท

รถเก๋งขนาดกลาง            2,500 – 3,500 บาท

รถกระบะ / SUV              3,500 – 5,000 บาท

อายุการใช้งานของน้ำยากันสนิมมักอยู่ที่ 1–2 ปี หลังจากนั้นควรพ่นซ้ำเพื่อคงประสิทธิภาพการป้องกัน

ข้อดีของการพ่นกันสนิม

• ป้องกันสนิมและการผุกร่อนใต้ท้องรถ
• ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนขณะขับขี่
• ยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างตัวถัง
• เพิ่มมูลค่าให้รถหากขายต่อ

ข้อควรระวังก่อนพ่นกันสนิม

• ควรทำโดยศูนย์บริการหรืออู่ที่มีความชำนาญ
• เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่มีสารเคมีที่กัดกร่อนยางหรือโลหะ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใต้ท้องรถแห้งสนิทก่อนพ่น เพื่อไม่ให้ความชื้นถูกเคลือบทับ

สรุป: พ่นกันสนิมใต้ท้องรถจำเป็นไหม?

       “จำเป็นสำหรับรถที่ใช้งานหนักหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยงต่อความชื้น”
แม้รถรุ่นใหม่จะมีการป้องกันจากโรงงาน แต่การพ่นกันสนิมเพิ่มเติมก็ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้รถคุณอยู่กับคุณได้ยาวนานขึ้น

       คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณเพิ่งซื้อรถใหม่ ลองปรึกษาศูนย์บริการก่อนว่ารถรุ่นของคุณมีการเคลือบกันสนิมมาจากโรงงานหรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจพ่นเพิ่มเติม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด

       การพ่นกันสนิมก็เหมือนกับการ “สร้างเกราะป้องกัน” ให้รถจากภายนอก แต่สำหรับการปกป้องจากความเสี่ยงที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น อุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ ประกันรถยนต์ คือเกราะอีกชั้นที่จำเป็นไม่แพ้กัน

       เพราะไม่ว่าจะดูแลรถดีแค่ไหน เหตุไม่คาดฝันก็อาจเกิดขึ้นได้เสมอ การมีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองครบ ช่วยให้คุณอุ่นใจ ทั้งเรื่องซ่อม ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน หากคุณกำลังดูแลรถด้วยการพ่นกันสนิมแล้ว อย่าลืม “ดูแลเรื่องประกันรถยนต์” ไปพร้อมกัน เพื่อให้รถของคุณปลอดภัยทั้งภายนอกและภายในอย่างแท้จริง