รวมสถานีชาร์จไฟฟ้ารถ EV

กระแสยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในปี 2021 นี้ ที่มีการเปิดตัว ORA Good Cat เรียกได้ว่า หาดูรีวิวได้แทบจะทุกช่อง ทุกสื่อ ไม่มีใครไม่พูดถึง บางท่านดูแล้วก็อยากลองขับ อยากจับจอง หรือบางท่านก็อาจได้มาครอบครองกันแล้ว แม้ราคาเริ่มต้นจะแพงกว่ารถใช้น้ำมันที่ขายในบ้านเราไปสักหน่อย แต่ในยุคที่ราคาน้ำมันแพงขนาดนี้ รถยนต์ไฟฟ้าก็นับว่าเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว หลายคนอาจกำลังสงสัยว่ามีรถไฟฟ้าแล้วจะไปชาร์จไฟที่ไหน วันนี้ MR.OOHOO จึงรวบรวมสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV) มาให้ทุกท่านเลือกใช้บริการกันได้แล้วครับ

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คืออะไร ? รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คืออะไร น่าใช้แค่ไหนในยุคน้ำมันแพง อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไม่มีการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง จากน้ำมัน ไม่มีการเผาไหม้เครื่องยนต์ ซึ่งวิธีการเติมพลังงานคือ ชาร์จไฟฟ้าเข้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แล้วดึงพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) 1. สถานีชาร์จไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA การไฟฟ้านครหลวง MEA มีบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อยู่หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและยังมี Application MEA EV เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานอีกด้วยครับ 13 สถานีชาร์จไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA ในกรุงเทพมหานคร 1. กฟน. สำนักงานใหญ่ เพลินจิต 2. กฟน. เขตวัดเลียบ 3. กฟน. เขตสามเสน 4. กฟน. เขตบางเขน 5. กฟน. เขตบางขุนเทียน 6. กฟน. เขตลาดกระบัง 7. กฟน. เขตบางใหญ่ 8. กฟน. เขตสมุทรปราการ 9. กฟน. เขตราษฎร์บูรณะ 10. กฟน. เขตธนบุรี 11. กฟน. ที่ทำการบางพูด 12. 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ศรีนครินทร์) 13. 7-Eleven สาขา สน.บางขุนนนท์ 2. สถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station ปตท. (PTT) จุดชาร์จไฟแบบ Quick Charge คือการชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่โดยตรง โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก 0-80% ได้ภายในเวลา 40-60 นาที ซึ่งปัจจุบันมี 5 สถานีดังนี้ 1. PTT Station สาขาพหลโยธิน กม. 25 กรุงเทพฯ 2. PTT Station สาขาวงแหวนกาญจนาภิเษก-ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 3. PTT Station สาขาพัฒนาการ ขาออก กรุงเทพฯ 4. PTT Station สาขาหนองแขม กรุงเทพฯ 5. PTT Station สาขาแยกหาดจอมเทียน พัทยา จุดชาร์จไฟแบบธรรมดา 25 สาขา ทั่วประเทศ ดังนี้ กรุงเทพมหานคร 1. สาขาแยกประชาอุทิศ-ลาดพร้าว กรุงเทพฯ 2. สาขาทุ่งครุ 3. สาขาพระราม 2 (ขาออก) 4. สาขาบรมราชชนนี (ขาเข้า) 5. สาขาราชพฤกษ์ 1 6. สาขาเอกมัย-รามอินทรา 7. สาขาลาดพร้าว-วังหิน 8. สาขานวลจันทร์ 9. สาขามัยลาภ 10. สาขาราษฎร์บูรณะ (ขาออก) นนทบุรี 11. สาขาประชาชื่น 2 ปทุมธานี 12. สาขาวงแหวนตะวันตก (ขาเข้า) 13. สาขาคลองหลวง กม.6 14. สาขาแยกสันติสุข สมุทรสาคร 15. สาขาพระราม 2 (ขาเข้า) นครปฐม 16. สาขาพุทธมณฑล สาย 4 17. สาขาพุทธมณฑล สาย 5 พระนครศรีอยุธยา 18. สาขาวังน้อย 19. สาขาบางปะอิน สระบุรี 20. สาขาสระบุรี ระยอง 21. สาขาโรงแยกก๊าซระยอง 22. สาขาตำบลมาบข่า ขอนแก่น 23. สาขาเมืองขอนแก่น เชียงใหม่ 24. สาขาสารภี สงขลา 25. สาขาหาดใหญ่ใน (ขาออก) 3. สถานีชาร์จไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคปัจจุบันมีสถานีชาร์จไฟฟ้า PEA VOLTA 10 สถานี ดังนี้ครับ - สายภาคเหนือ(กรุงเทพฯ – พระนครศรีอยุธยา) จำนวน 2 สถานี - สายภาคใต้(กรุงเทพฯ – หัวหิน) จำนวน 4 สถานี - สายภาคตะวันออก(กรุงเทพฯ – พัทยา) จำนวน 3 สถานี - สายภาคตะวันตก(กรุงเทพฯ – นครปฐม) จำนวน 1 สถานี 4. สถานีชาร์จไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีสถานีชาร์จไฟฟ้าให้บริการทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge ดังนี้ครับ 1. พระนครศรีอยุธยา - โรงไฟฟ้าวังน้อย 2. ลำปาง - โรงไฟฟ้าแม่เมาะ 3. ขอนแก่น - โรงไฟฟ้าน้ำพอง 4. ฉะเชิงเทรา - โรงไฟฟ้าบางปะกง 5. สงขลา - โรงไฟฟ้าจะนะ 6. นครราชสีมา - โรงไฟฟ้าลำตะคองฯ 7. อุบลราชธานี - โรงไฟฟ้าเขื่อนสิริธร 8. นนทบุรี - สำนักงานกลาง กฟผ. 9. นนทบุรี - ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง 5. สถานีชาร์จไฟฟ้า EA Anywhere หรือบ.พลังงานบริสุทธิ์ EA Anywhere คือผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด(Plug-in Hybrid Electric Vehicle - PHEV) และยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่(Battery Electric Vehicle - BEV) โดยปัจจุบัน EA Anywhere มีสถานีชาร์จไฟฟ้าให้บริการแล้วมากกว่า 435 แห่ง ท่านสามารถเลือกค้นหาและใช้บริการจุดสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ใกล้บ้านท่านได้ผ่านเว็บไซต์ของ EA Anywhere ครับ สำหรับใครที่สนใจนวัตกรรมใหม่ๆรักษ์โลกอย่างรถยนต์ไฟฟ้าก็ขอให้ศึกษาข้อมูลให้ดีว่าตอบโจทย์และสะดวกสบายต่อการใช้งานของท่านหรือไม่ ส่วนใครที่ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ยังต้องการใช้รถยนต์แบบเติมน้ำมันอยู่ก็อย่าลืมทำประกันรถยนต์กันด้วยนะครับ รถใหม่ ใช้รถเยอะ แนะนำประกันรถยนต์ชั้น 1ครับ ส่วนใครงบมีจำกัด ต้องรัดเข็มขัดในช่วงนี้ MR.OOHOO ขอแนะนำประกันรถยนต์ชั้น 2+ เลยครับ เอาล่ะ วันนี้ MR.OOHOO ต้องขอตัวลาไปก่อน ในบทความหน้าจะมีสาระดีๆอะไรมาฝาก อย่าลืมติดตามกันนะคร๊าบบบ