เรากำลังเข้าใจวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ผิดอยู่หรือเปล่า?

 

         เนื่องในวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ไอเดียรักษ์โลก ที่ตั้งต้นมาจากงานวิจัยเกี่ยวกับระดับของมลพิษทางอากาศ จึงเกิดเป็นวันสำคัญที่รณรงค์ให้ผู้คนหันมาเดินเท้า ปั่นจักรยาน และเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนมากขึ้น แต่หลายคนกำลังเข้าใจวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ผิด Mr.OOHOO จึงนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) มาให้เพื่อนๆได้ทำความเข้าใจกันมากขึ้น

 

ความสำคัญของวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day)

           วันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) ไอเดียรักษ์โลกระดับสากล เป็นความคิดริเริ่มที่มีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและส่งเสริมการขนส่งที่ยั่งยืน โดยในทุก ๆวันที่ 22 กันยายนของทุกปี องค์กรต่างๆทั่วโลกจะมีการสนับสนุนให้ผู้คนเลิกใช้รถส่วนตัวและเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน เพื่อสัมผัสกับประโยชน์ของวิถีชีวิตที่ปราศจากรถยนต์

 

          แนวคิดของวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) เกิดขึ้นเมื่อมีงานวิจัยเกี่ยวกับระดับของมลพิษทางอากาศ ความแออัดของการจราจร สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้รถยนต์ที่เป็นแหล่งเผาไหม้เชื้อเพลิงมากเกินไป ด้วยการสนับสนุนให้ผู้คนเลือกเดิน ปั่นจักรยาน ขนส่งสาธารณะ หรือใช้รถร่วมกัน Car-Free Day สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับข้อเสียเหล่านี้

 

ประโยชน์ของวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day)

          ประโยชน์ของวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) มีมากกว่าแค่การคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหาความแออัดของการจราจร ส่งผลทำให้คุณภาพอากาศดีขึ้น ทำให้เขตใจกลางเมืองมีสุขภาพที่ดีขึ้นและน่าอยู่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังลดมลพิษทางเสียงที่เกิดจากรถยนต์ในช่วงเวลาปลอดรถอีกด้วย 

 

 

กิจกรรมที่ควรทำในวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day)

          การเข้าร่วมวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) เป็นทางเลือกที่แต่ละคนอยากมีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ซ้ำแล้วการเริ่มต้นทำสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ในกิจวัตรประจำวันสามารถส่งผลเชิงบวกที่สำคัญต่อโลกได้

 

 

          แม้กระทั่งติดรถยนต์ไปกับเพื่อนร่วมทางที่ไปในเส้นทางเดียวกัน ช่วยลดโอกาสให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ได้ เพียงแค่วางแผนการเดินทางและขยายเวลาในการเดินทางให้ถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการไปสาย 

          ทั้งนี้ ในวันคาร์ฟรีเดย์ (Car-Free Day) ยังเป็นวันที่หลายคนอาจมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นสบายๆ ปิกนิก หรือเพลิดเพลินกับกิจกรรมในสวนสาธารณะกลางแจ้งหรือพื้นที่สีเขียวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ คลายเคลียดจากการจราจรที่แน่นหนา

 

เรากำลังเข้าใจวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ผิดอยู่หรือเปล่า?

“วันคาร์ฟรีเดย์ ไม่ได้หมายความว่า ห้ามใช้รถยนต์”

        ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Car-Free Day คือการเน้นไปที่การกำจัดรถยนต์ให้หมดไปจากท้องถนนเพียงวันเดียว ถึงแม้ว่าความหมาย Car-Free Day อาจบ่งบอกถึงการเลิกใช้รถยนต์  แต่เป้าหมายที่แท้จริงของ วันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) คือการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 
        วันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day)ไม่จำเป็นว่าต้องห้ามใช้งานรถยนต์ทั้งหมดเป็นเวลา 24 ชั่วโมงเสมอไป แต่เป็นเรื่องของปลูกฝังค่านิยม และความคิดในการเปลี่ยนแปลงทำเพื่อโลก และกระตุ้นให้แต่ละคนคิดอย่างมีวิจารณญาณเกี่ยวกับทางเลือกในการเดินทางของตัวเอง  ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ผู้คนจะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางด้วยวิธีต่างๆ เช่น การเดิน ปั่นจักรยาน การใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือการใช้รถยนต์ร่วมกัน 

          นอกจากนี้วันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ไม่ได้รณรงค์ใช้กับเขตเมืองที่มีลักษณะการจราจรที่แน่นหนาว่าในเขตชนบทเท่านั้น เพราะ ในความเป็นจริงวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) สามารถเฉลิมฉลองได้ในหลายสถานที่ รวมถึงชุมชนชานเมืองและชนบท เป็นการกระตุ้นให้ผู้คนค้นหาทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการใช้รถยนต์ส่วนตัว

          โดยสรุปแล้ว Mr.OOHOO เชื่อว่าวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมที่ทำแค่วันเดียวแล้วจบไป  แต่เป็นโอกาสสำคัญที่สร้างความตระหนักรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อย ๆ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะทุกคนมีหน้าที่ในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่กับเราอย่างยั่งยืน และมีความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมในระดับชุมชน สังคม และประเทศชาติ

            แม้ว่าในวันคาร์ฟรีเดย์(Car Free Day) จะเป็นการรณรงค์ให้ทุกคนเริ่มออกมาเดินทางด้วยวิธีอื่นนอกจากใช้รถยนต์ส่วนตัว Mr.OOHOO ก็อยากให้เพื่อนๆ ตระหนักรู้ถึงความปลอดภัยบนท้องถนนกันให้มาก ๆ  ขับรถยนต์ด้วยความไม่ประมาท และรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติที่ไม่คาดฝัน และเจอกับการชดใช้ค่าเสียหายที่บานปลาย การตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก็อาจช่วยให้เพื่อนๆ ไม่ต้องเจอกับการเสียเงินค่าซ่อมรถหรือในกรณีบาดเจ็บอื่น ๆ ดังนั้น ขอแนะนำให้ทำประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ มั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองย่างเต็มที่จากบริษัทประกันชั้นนำ ที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ สามารถเลือกซื้อออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช็กราคาประกันทันใจ ไม่ต้องรอข้อเสนอจากตัวแทน เพราะเป็นประกันออนไลน์  ยกทัพเอาแผนประกันราคาที่ดีที่สุดมาให้ได้เลือกซื้อกันแล้ว ผ่อนจ่ายได้ในราคาที่เอื้อมถึง