13 Aug 2025
หลายท่านที่ขับขี่รถยนต์อาจเคยได้ยินคำว่า “ประกันรถยนต์” แต่รู้หรือไม่ว่าประกันรถยนต์นั้นแบ่งออกเป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะอธิบายให้คุณเข้าใจง่ายๆ ครับ
ในประเทศไทย ประกันรถยนต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ประกันรถยนต์ภาคบังคับ และ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งทั้งสองประเภทมีความแตกต่างกัน ดังนี้
ประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “พ.ร.บ.รถยนต์” เป็นประกันภัยรถยนต์ที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องมี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหลักประกันสำหรับผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทุกคน ให้ได้รับการคุ้มครองเบื้องต้นในด้านค่ารักษาพยาบาลและค่าเสียหายอื่นๆ
ประกันรถยนต์ภาคบังคับจะมีการคุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้นทันทีโดยไม่ต้องรอการตัดสินว่าเป็นฝ่ายถูกหรือผิด ดังนี้:
ค่ารักษาพยาบาล (จ่ายตามจริง) ไม่เกิน 30,000 บาท
สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร 35,000 บาทต่อคน
เสียชีวิต ได้รับค่าปลงศพและค่าใช้จ่ายจำเป็นแก่ทายาท 35,000 บาทต่อคน
นอกจากนี้ ยังมีค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมหลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นผู้ต้องรับผิดตามกฎหมาย:
ค่ารักษาพยาบาล (จ่ายตามจริง) ไม่เกิน 80,000 บาท
สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพถาวร ได้รับค่าทดแทน 200,000 - 500,000 บาทต่อคน (ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด)
เสียชีวิต ได้รับค่าสินไหมทดแทนสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทต่อคน
ค่าชดเชยกรณีเข้ารักษาตัวในฐานะผู้ป่วยใน วันละ 200 บาท (รวมไม่เกิน 20 วัน)
กฎหมายกำหนดให้รถยนต์ทุกคันต้องมีและต้องต่ออายุทุกปีก่อนที่จะต่อภาษีประจำปี หากขาดการต่ออายุจะไม่สามารถจ่ายภาษีรถยนต์ได้ และหากไม่ทำ พ.ร.บ. จะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เป็นการทำข้อตกลงระหว่างผู้ซื้อประกันและบริษัทประกันภัย โดยผู้ซื้อสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตนเองได้ตามความพึงพอใจ ซึ่งไม่ได้ถูกบังคับด้วยกฎหมาย แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่า
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้:
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1: คุ้มครองครอบคลุมที่สุด ทั้งอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงการโจรกรรม ภัยธรรมชาติ และไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+: คุ้มครองคล้ายชั้น 1 แต่เน้นการชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น และยังคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+: คุ้มครองการชนแบบรถชนรถเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีรถหายหรือไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2: คุ้มครองการซ่อมรถและค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี ส่วนรถของคุณจะคุ้มครองเฉพาะกรณีรถหายหรือไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3: คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น เป็นความคุ้มครองแบบพื้นฐานที่สุด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของประกันรถยนต์ สามารถดูได้ที่บทความ: ประกันรถยนต์มีกี่ประเภท?