4 จุดสำคัญ ดูแลรถยนต์ไฟฟ้า(EV)

4 จุดสำคัญ ดูแลรถยนต์ไฟฟ้า(EV)

07 Sep 2023

     สำหรับใครที่เปลี่ยนใจ หันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจ การเปลี่ยนจากรถยนต์สันดาปทั่วไปมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อน ๆ จำเป็นต้องศึกษาแนวทางการรักษารถยนต์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ วันนี้ Mr.OOHOO มาแนะนำ 4 จุดสำคัญที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุด โดยเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปน้อยในบทความนี้กันครับ
      ก่อนดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าให้พร้อมใช้งาน ต้องมีเกราะป้องกันชั้นดี ทำประกันรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ คุ้มครองรถยนต์ พร้อมให้บริการเสริมที่ติดมากับแพ็กเกจประกัน ที่ OOHOO.io มีประกันรถยนต์จากหลายบริษัทประกันชั้นนำเอาไว้ในที่เดียว เปรียบเทียบราคา และซื้อได้ด้วยตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง 
 

4 จุดสำคัญดูแลรถยนต์ไฟฟ้า

 
1.แบตเตอรี่ 
      หัวใจสำคัญที่สุดของรถขับเคลื่อนไฟฟ้าคือ “แบตเตอรี่”  เป็นแหล่งพลังงานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในรถยนต์พลังงานไฟฟ้า(EV) สามารถให้ความปลอดภัยด้านการใช้งาน และสามารถยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า EV ได้นานขึ้น 
       ดังนั้น อุณหภูมิ คือ ตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อสมรรถนะและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ หลักการยืดอายุแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นาน คือ การรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หากรถยนต์มีอุณหภูมิสูงเกินไปก็เปลืองแบตเตอรี่ หรืออุณหภูมิต่ำเกินไปก็เปลืองแบตเตอรี่ สูญเสียเวลาในการชาร์จ เปลืองพลังงานไฟฟ้าและมีค่าใช้จ่ายต่างๆในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
      Mr.OOHOO รวม  HOW TO ขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม วิ่งได้ไกลขึ้น  ไว้ในบทความที่แล้ว สามารถไปย้อนอ่านกันได้ 
 
 
2.ระบบเบรก 
      ระบบเบรกเป็นส่วนสำคัญที่จำเป็นต่อรถยนต์ใช้น้ำมันมันและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ต้องดูแลให้ดี ซึ่งตามคำแนะนำควรจะเปลี่ยนเบรกใหม่เมื่อผ่านการใช้งานไปแล้ว 80,000 กิโลเมตร หรือเร็วกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากใช้รถยนต์ไฟฟ้า(EV) ไปบรรทุกของหนักและขับรถด้วยความเร็วสูงประจำ อายุผ้าเบรคอาจจะสั้นขึ้น  
      สัญญาณเตือนควรเปลี่ยนผ้าเบรก  คือ เมื่อเบรกแล้วมีเสียงคล้ายเหล็กครูด เสียดสีกัน ซึ่งอาจมีเหตุมาจากคลิปผ้าเบรคครูดกับจานเบรค เป็นสัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนผ้าเบรคได้นั่นเอง


ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

รับกรมธรรม์ได้เลย ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



3.ระบบชาร์จ
      จากสภาพแดดเมืองไทยแล้ว มีผลต่อการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(EV)โดยตรง  วิธีการในการดูแลรักษารถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง ต้องดูแลระบบชาร์จให้ดี และจำกัดเวลาสำหรับชาร์จเพื่อไม่ให้อุณหภูมิสูงจนระบายความร้อนไม่ทัน  การชาร์จไฟแบบค่อยๆ ปล่อยให้กระแสไฟไหลเข้าไปในแบตเตอรี่ ด้วยการชาร์จแบบปกติหรือ AC แต่อาจต้องรอนาน 6-8 ชั่วโมง เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ แต่ถ้าหากไม่มีเวลา การชาร์จเร็วด้วยไฟ DC quick charge ในช่วงกลางคืน ซึ่งมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า สามารถรักษาแบตเตอรี่ได้ระดับหนึ่ง แต่การชาร์จไฟด้วยระบบชาร์จเร็ว DC quick charge ในช่วงเวลากลางวัน หรือจอดแช่ไว้กลางแจ้งขณะชาร์จไฟบ่อยเกินไปจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่สั้นลง 
      สำหรับเทคนิกชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไงให้คุ้มและใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าน้อยที่สุด คือ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ระดับ 80 % ในช่วงเวลากลางคืน โดยใช้ระบบการชาร์จแบบ DC quick charge เพราะการชาร์จไฟฟ้าที่ระดับ 80 % จะเป็นการชาร์จที่เร็วที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที จากนั้นตู้ชาร์ไฟฟ้าจะจ่ายไฟฟ้าน้อยลง ส่งผลทำให้การชาร์จช้าลง เเละเพื่อเป็นการถนอมตัวแบตเตอรี่อีกด้วย
     ถ้าอยากรู้ว่า ชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม ตามไปอ่านกันได้นะครับ

4.ยางรถยนต์   
      การนำรถยนต์ออกไปใช้งานเป็นประจำ ยิ่งมีระยะขับนาน  และเส้นทางที่ใช้มีผลต่อการทำให้ยางรถยนต์เสื่อม สำหรับการดูแลยางรถยนต์ไฟฟ้า(EV)และรถใช้น้ำมันมีวิธีการดูแลรักษาเหมือนกัน ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกัน และระยะเวลาเปลี่ยนยางเหมือนกัน  เมื่อผ่านการใช้งานไปได้สักระยะยางจะเริ่มต้นขั้นตอนของการเสื่อมสภาพไปเรื่อยๆจนหมดอายุการใช้งาน ปัจจุบัน อายุการใช้งานของยางรถยนต์ไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000-40,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 2-3 ปี ควรหมั่นเช็กระยะทางและประสิทธิภาพของยางให้ดีทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

      เพื่อการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า(EV)อย่างมีประสิทธิภาพ ควรหมั่นดูแลรักษาระบบต่างๆในรถยนต์ไฟฟ้า(EV)ให้ดี  หากพบความผิดปกติให้รีบนำรถยนต์เข้าศูนย์เพื่อเช็กให้แน่ใจ และสามารถป้องกันเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ สำหรับการนำรถยนต์เข้าซ่อมในแต่ละครั้ง เพื่อนๆ อาจต้องเจอกับค่าซ่อมมหาศาล แต่เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวลใจ หากมีประกันรถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถเคลมความเสียหายได้ ทั้งมีคู่กรณี และไม่มีคู่กรณี ที่ OOHOO.io มีแพ็กเกจประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้เลือกซื้อแล้ว หากสนใจ สามารถเข้าไปเปรียบเทียบ และเช็กราคาได้ มีแพ็กเกจจากหลายบริษัทประกันชั้นนำ อย่ารอช้า ไปเช้กเบี้ยเลย!

 

ที่มาข้อมูล : sanook.com / kapook.com