วิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน

วิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน

27 Oct 2023

          จุดที่หลายคนอาจพลาดไปช่วงหน้าฝน คือ “ที่ปัดน้ำฝน” สิ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่บนถนนทุกคน ดังนั้น Mr. OOHOO มาแนะนำวิธีการเตรียมรับมือพายุลูกใหญ่ ดูแลที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!

3 สัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝนใหม่
1.ที่ปัดน้ำฝนไม่สามารถรีดน้ำบนหน้ากระจกได้หมด
2.มีเสียงดังเวลาใช้งาน
3.มีจังหวะกระตุกไม่สมูทเหมือนที่เคยใช้

          ทั้งนี้ หากที่ปัดน้ำฝนไม่สามารถทำงานได้เลย ก็มักจะมาจากหลายสาเหตุ เช่น ฟิวส์ หรือมอเตอร์ปัดน้ำฝนสึกหรอ หรือหากสังเกตได้ว่าที่ปัดน้ำฝนปัดแล้วไม่กลับมาที่เดิม อาจต้องตั้งเฟืองกัน 

ความเชื่อผิด ๆ หากจอดรถตากแดด ต้องยกใบปัดน้ำฝนขึ้นหรือไม่?
         ถ้านำรถยนต์ไปจอดรถตากแดดแล้วต้องยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นหรือไม่ คำตอบคือ ไม่จำเป็น สามารถวางไว้ตามเดิมเพราะการยกปัดน้ำฝนขึ้นมายิ่งทำให้ก้านเจอแดดมากขึ้น ส่งผลให้ก้านปัดน้ำฝนและยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพเร็วขึ้นนั่นเอง

          แต่ถ้ามีพายุลูกใหญ่กำลังมา Mr.OOHOO แนะนำให้เลี่ยงพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ในบทความ  5 จุดเสี่ยง จอดรถเลี่ยงอันตรายเมื่อมีพายุเข้า ด้วยนะครับ ปลอดภัยไว้ก่อน!



ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% <br/>ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด <br/>เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย <br/>เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง <br/>จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

รับกรมธรรม์ได้เลย <br/>ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ<br/>เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



วิธีดูแลที่ปัดน้ำฝนให้พร้อมใช้งาน
1. ทำความสะอาด  
        เริ่มดูแลที่ปัดน้ำฝนง่าย ๆ จากการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่ยกก้านขึ้น หาผ้าชุบน้ำสะอาด  ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดประเภทอื่น ๆ  เนื่องจากสารเคมีในน้ำยาทพความสะอาดเสี่ยงทำให้ยางปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น จากนั้น เช็ดตามแนวยางของใบพัดน้ำฝน ไม่ให้ฝุ่นหรือใบไม้เกาะจนสกปรก เวลาใช้งานจริงจะได้ปัดได้เรียบลื่นไม่มีฝุ่นละอองติดอยู่
2. เปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝนแม้ไม่จำเป็นต้องไล่น้ำหน้ากระจก
         นอกจากจะได้ประโยชน์ทั้งกระจกสะอาด และยางบนใบปัดน้ำฝนก็จะไม่เสื่อมสภาพ และทดลองใช้ทั้งสามโหมดของรถยนต์ คือ ช้า ต่อเนื่อง และเร็วสุด เพื่อเช็กสภาพการทำงานทั้งระบบด้วย 
3. เช็ดหน้ากระจกให้สะอาด
         สามารถใช้น้ำยาเช็ดกระจก ทำความสะอาดหน้ากระจกรถยนต์ เพื่อให้มีน้ำยาเคลือบกระจก อำนวยการทำงานของที่ปัดน้ำฝนให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยไล่น้ำได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ การทำความสะอาดหน้ากระจกยังป้องกันเศษหินเศษดินเล็กๆ ที่มองไม่เห็น หากเปิดใช้งานที่ปัดน้ำฝนเข้า กระจกรถยนต์อาจโดนขูดจนเป็นรอยได้
4. หลีกเลี่ยงการจอดรถยนต์ตากแดดเป็นเวลานาน
         ควรนำรถยนต์จอดในพื้นที่ใต้อาคาร หรือบริเวณที่มีร่มเงา เนื่องจากความร้อนจากแสงแดดเป็นศัตรูทำร้ายยางปัดน้ำฝนให้กรอบแตกเสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ 
          หลีกเลี่ยงไฟไหม้รถยนต์ได้ง่าย ๆ หากไม่ทิ้งสิ่งของต้องห้ามบนรถยนต์หากนำรถยนต์จอดไว้กลางแดด Mr. OOHOO แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เอาไว้ คุ้มครองกรณีรถยนต์ไฟไหม้ เช็กราคาประกันรถยนต์กับแพ็กเกจประกันรถยนต์ชั้น 1 สุดคุ้มที่ OOHOO.io รวมแผนประกันราคาประหยัด ผ่อนจ่ายได้ในราคาย่อมเยา!
5. หมั่นตรวจสภาพการใช้งานรถยนต์ทุก 6 เดือน
         ควรจดข้อมูลของรถยนต์ให้ละเอียด และนำรถยนต์เพื่อเข้าศูยน์ตรวจรถยนต์เป็นประจำทุกๆ ปี ระยะเวลาที่แนะนำคือ ทุก ๆ 6 เดือน หรือระหว่างนี้หากพบความผิดปกติให้รีบนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการเพื่อป้องกันอุบัติเหตุได้
        หรือต้องการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นด้วยตัวเองง่าย ๆ ตามหลักการดูแลรถยนต์ BE=WAGON ก็สามารถไปติดตามกันได้เลยนะครับ Mr.OOHOO เคยรวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
        รู้วิธีการดูแลรักษาที่ปัดน้ำฝนแล้ว เตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหญ่ ด้วยแพ็กแกจประกันรถยนต์ช่วงหน้าฝน คุ้มครองภัยน้ำท่วมและบริการช่วยเหลือฉุกเฉินฟรี ต้องทำประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ OOHOO.io เท่านั้น มีแผนประกันรถยนต์ราคาถุกใจ ผ่อนจ่ายได้ เงินสด หรือบัตรเครดิต ค่าธรรมเนียม 0% คุ้มครองทันทีหลังกดซื้อ อย่ารอช้า ไปเช็กเบี้ยกันเลย
 
ที่มาข้อมูล : thairath