สังเกตอาการแบตเตอรี่เสื่อม

         เพื่อน ๆ ที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า หรือกำลังวางแผนจะถอยรถใหม่เป็นสาย EV ต้องเตรียมตัวเพื่อสังเกตอาการแบตเตอรี่เสื่อมของรถยนต์ไฟฟ้าให้ดี ก่อนจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น วันนี้ Mr.OOHOO รวบรวม 4 อาการน่าสงสัยที่อาจเป็นผลมาจากแบตเตอรี่เสื่อม พร้อมแนะนำวิธีการยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EVให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น

         ก่อนไปเช็กอาการแบตฯเสื่อม ลองมาเช็กประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่ OOHOO.io แหล่งรวมประกันรถยนต์ชั้นเยี่ยมจากหลายบริษัทชั้นนำ ผ่อนจ่ายได้ สะดวก คุ้มค่า เปรียบเทียบราคา เลือกเบี้ยที่ถูกใจด้วยตัวเองง่าย ๆ เพราะ อู้หู! เป็นประกันออนไลน์ ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว

4 อาการน่าสงสัย อาการแบบนี้แบตเตอรี่เสื่อมใช่หรือไม่ ?

1.ใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่นานขึ้นกว่าเดิม 
       สาเหตุความผิดปกตินี้มาจากความสามารถในการเก็บไฟของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าลดลง ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% นานขึ้น

2.ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% เร็วผิดปกติ 
        การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ ระบบ AC และ DC ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จก็อาจช้า-เร็วขึ้นอยู่กับระบบที่เลือกใช้ แต่หากสังเกตว่า เริ่มชาร์จแบตเตอรี่เต็ม100% เร็วเกินไป  ก็อาจมีสาเหตุมาจากประสิทธิภาพความจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่เหลือน้อยลง 

3.วิ่งระยะทางได้น้อยลง 
        ชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% แต่วิ่งระยะทางได้น้อยลง อาจเป็นสัญญาณเตือว่าแบตเตอรี่เสื่อม เนื่องมาจากตัวเก็บประจุไฟเสื่อมคุณภาพ ทำให้ความสามารถในการเก็บไฟได้น้อยลง ส่งผลต่อระยะทางการวิ่งที่ไม่เต็มประสิทธิภาพเหมือนเดิม

4.ประสิทธิภาพรถแย่ลง 
        เมื่อไหร่ก็ตามที่ความสามารถในการเก็บไฟของแหล่งพลังงานไฟฟ้าลดลง การทำงานของระบบเครื่องยนต์จึงไม่เหมือนเดิม หากพบความผิดปกติเกิดขึ้นกับรถยนต์ไฟฟ้า อาจเดาได้ว่ามาจากแบตเตอรี่เสื่อมได้

        ถ้าหากรถยนต์ไฟฟ้าคันโปรดคู่ใจของเพื่อนๆ เริ่มมีอาการผิดปกติ 1 ใน 4 ข้อที่ Mr.OOHOO กล่าวไปข้างต้นก็ควรนำรถยนต์เข้าศูนย์ซ่อมเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติ และเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาาพอีกครั้ง

        อยากรู้ ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม?  ไปตามอ่านกันได้ Mr.OOHOO เคยรวมรวมข้อมูลมาให้แล้ว 

วิธีการยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า EV

1.หมั่นเหยียบเบรกเพื่อสร้างพลังงาน
         สำหรับเปลี่ยนพลังงานจลน์ไปเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่
2.รักษาความเร็วให้คงที่
         เป็นการประหยัดพลังงาน ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุแล้ว และยังช่วยยืดอายุแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
3.รักษาอุณหภูมิรถยนต์ไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
        หากรถยนต์ไฟฟ้ามีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปก็กินพลังงานแบตเตอรี่ สูญเสียเวลาในการชาร์จ เปลืองพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น
4.ชาร์จเเบตเตอรี่ในระดับที่เหมาะสม
       การชาร์จไฟฟ้าที่ระดับ 80 เปอร์เซ็นต์จะเป็นการชาร์จที่เร็วที่สุด โดยใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที จากนั้นตู้ชาร์ไฟฟ้าจะจ่ายไฟฟ้าน้อยลง เพื่อเป็นการถนอมตัวแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้น

          อู้หู! เป็นยังไงกันบ้างครับ ความรู้ที่ Mr.OOHOO เอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังสงสัยว่าอาการผิดปกติเหล่านี้ มีสาเหตุมาจากแบตเตอรี่เสื่อมหรือเพราะสาเหตุอื่น หากสนใจบทความดี ๆ เกี่บวกับรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น พิกัดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ  วิธีการล้างรถยนต์ไฟฟ้าด้วยตัวเองที่บ้านง่าย ๆ หรือ HOW TO ขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ยังไงให้คุ้ม วิ่งได้ไกลขึ้น ก็สามารถไปติดตามกันได้    
          ส่วนเรื่องประกันรถยนต์ก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเจอความผิดปกติจนต้อวงเอารถเข้าศูนย์ซ่อมก้อาจต้องเจอกับค่าซ่อมมากมายๆ ก็ยังอุ่นใจ มีประกันรถยนต์ไฟฟ้าที่เคลมความเสียหายได้ มองหาประกันรถยนต์ไฟฟ้า ให้มาที่ OOHOO.io เพื่อน ๆ จะได้เปรียบเทียบราคา และเลือกซื้อได้ตามต้องการ มีแพ็กเกจหลากหลาย ผ่อนจ่ายได้ 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ สะดวก คุ้มค่ากว่าที่เคยมี!