ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ ต่างกันอย่างไร?

ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ ต่างกันอย่างไร?

07 Jul 2025

         มีรถยนต์เป็นของตัวเองแล้ว ประกันรถยนต์ คือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงแค่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ แต่ยังเพิ่มความอุ่นใจให้กับทุกการขับขี่ แล้วคำถามยอดฮิตที่มักตามมาก็คือ... ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+ ต่างกันยังไง? แบบไหนคุ้มที่สุด?

         บทความนี้ Mr.OOHOO จะพาเพื่อน ๆ มาทำความเข้าใจแบบชัดเจน พร้อมเปรียบเทียบให้เห็นภาพ และแนะนำวิธีเลือกแผนประกันที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

 

ทำไมต้องมีประกันรถยนต์?

         แม้กฎหมายไทยจะบังคับให้รถยนต์ทุกคันต้องมี พ.ร.บ. รถยนต์หรือประกันภาคบังคับ แต่ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. นั้นจำกัดเฉพาะบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเท่านั้น จึงไม่ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของคุณหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

         นี่จึงเป็นเหตุผลที่ควรพิจารณาทำ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่อาจเกิดอุบัติเหตุทั้งมีหรือไม่มีคู่กรณี

 

ทำความรู้จักกับประกันรถยนต์แต่ละชั้น

ประกันรถยนต์ชั้น 1

          ถือเป็นแบบที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด ครอบคลุมทั้งกรณีรถชนแบบมีคู่กรณี ไม่มีคู่กรณี รถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม และความเสียหายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

         ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะสำหรับ รถใหม่ป้ายแดง ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองรอบด้าน หรือคนขับที่ต้องการความอุ่นใจทุกสถานการณ์ หากต้องการคุ้มครองแบบครอบคลุมที่สุด ประกันชั้น 1 คือคำตอบ

 

แนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ซื้อที่ OOHOO.io รับดีลสุดพิเศษ

         ประกันรถยนต์ชั้น 1 ธนชาตประกันภัย ผ่อนเงินสด 0% สูงสุด 10 เดือน* หารเท่า  ราคาเริ่มต้น 1,950 บาทต่อเดือน  

อายุรถที่รับ : 2-10 ปี

ประเภท : ซ่อมอู่ 

ค่าเสียหายส่วนแรก : ไม่มี

ทุนประกัน : 900,000 บาท

คุ้มครองพิเศษที่ติดมากับประกันรถยนต์ชั้น 1

ความคุ้มครองเสริม Motor Top up
- ชดเชยรายได้ระหว่าง รักษาตัวในโรงพยาบาล
- ชดเชยค่าเดินทาง ระหว่างนํารถยนต์เข้าซ่อม

ความคุ้มครองส่วนอื่นๆ
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุบนท้องถนน
- ไม่ต้องระบุชื่อผู้ขับขี่
- ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก (เฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น)
เช็คเงื่อนไขและความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยชั้น 1 ได้ก่อนซื้อประกันรถยนต์ คลิก

         

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

          เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่อยากประหยัดค่าเบี้ยประกันแต่ยังได้คุ้มครองในกรณีสำคัญ เช่น รถชนกับยานพาหนะทางบก มีคู่กรณี สูญหาย ไฟไหม้ ไม่ครอบคลุมเมื่อเกิดเหตุรถชนที่ไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนเสา รอยขีดข่วนต่าง ๆ
         เหมาะสำหรับ รถอายุ 3–7 ปี ผู้ที่ขับรถอย่างมืออาชีพ หรือไม่ได้ใช้งานในพื้นที่เสี่ยง แน่นอนว่าค่าเบี้ยประกันชั้น 2+ ถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ยังอุ่นใจในกรณีชนกับรถคันอื่น

แนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น  2+  ซื้อที่ OOHOO.io รับดีลสุดพิเศษ

         ประกันรถยนต์ชั้นประกันภัยไทยวิวัฒน์ ผ่อนเงินสด 0% 10 เดือน หารเท่า ราคาเริ่มต้น 590  บาทต่อเดือน

อายุรถที่รับ : 2-10 ปี

ประเภท: ซ่อมอู่

ค่าเสียหายส่วนแรก : ไม่มี

ทุนประกัน : 100,000 บาท

ประกันภัยเสริมรถยนต์ Add-on

- สิทธิพิเศษ รับรถไม่จำกัดอายุ

- เงินช่วยเหลือปลอบขวัญ กรณีเข้ารับการักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (ต่อคน ต่ออุบัติเหตุ)(บาท) 5,000

- เงินช่วยเหลือครอบครัว กรณีเสียชีวิต10,000 บาท/คน 

 

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

           คือเวอร์ชันอัปเกรดของประกันชั้น 3 ซึ่งเพิ่มความคุ้มครองเมื่อรถชนกับยานพาหนะทางบก แต่ไม่ครอบคลุมการชนแบบไม่มีคู่กรณี และไม่คุ้มครองรถสูญหายหรือไฟไหม้
เหมาะสำหรับ รถที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป ผู้ที่ใช้งานรถไม่บ่อย หรือคนที่มีงบจำกัด ประกันชั้น 3+ เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุ้มครองเท่าที่จำเป็นและประหยัดเทานั้น

แนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 3+  ซื้อที่ OOHOO.io รับดีลสุดพิเศษ

         ประกันรถยนต์เออร์โกประกันภัยผ่อนเงินสด 0% 6 เดือน ราคาเริ่มต้น 916 บาทต่อเดือน

อายุรถที่รับ : 2-10 ปี

 ประเภท: ซ่อมอู่

ค่าเสียหายส่วนแรก : ไม่มี

ทุนประกัน : 100,000 บาท

ประกันภัยเสริมรถยนต์ Add-on

  • บริการให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์โดยช่างเทคนิคตลอด 24 ชั่วโมง 
  • บริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน ไม่เกิน 10 ลิตรต่อครั้ง สมาชิกสามารถใช้บริการได้ 1 ครั้งต่อปี เฉพาะในกรณีที่น้ำมันหมดฉุกเฉินขณะขับขี่บนท้องถนนและรถไม่สามารถขับเคลื่อนได้
  • บริการช่างซ่อมรถยนต์ฉุกเฉิน เพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นในการซ่อมรถ ณ จุดเกิดเหตุ สมาชิกสามารถใช้บริการได้ 1 ครั้งต่อปีในวงเงินไม่เกิน 1,000 บาท (ไม่รวมค่าอะไหล่ หรืออุปกรณ์เสริมต่างๆ) โดยสมาชิกเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
  • บริการช่างกุญแจฉุกเฉินเนื่องมาจากลืมกุญแจหรือทำกุญแจสูญหาย สมาชิกสามารถเลือกใช้บริการได้อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้ ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับกุญแจสำรอง ภายในระยะทางไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อครั้ง สมาชิกสามารถใช้บริการได้ 1 ครั้งต่อปี ระยะทางที่เกินจะคิดค่าบริการกับสมาชิกกิโลเมตรละ 25 บาท บริการช่างกุญแจเพื่อเปิดประตูรถยนต์ ณ ที่เกิดเหตุ โดยสมาชิกเป็นผู้รับผิดชอบค่าบริการช่างกุญแจ
  • บริการรถยก-ลากฉุกเฉิน ภายในระยะทาง 25 กิโลเมตรต่อครั้ง ใช้บริการได้ 1 ครั้งต่อปี สำหรับระยะทางที่เกิน 25 กิโลเมตรจะคิดค่าบริการ กับสมาชิกกิโลเมตรละ 25 บาท
  • บริการเพื่อการเดินทางที่ต่อเนื่อง: กรณีที่สมาชิกเดินทางห่างจากภูมิลำเน้าอย่างน้อย 100 กิโลเมตร หากเกิดเหตุรถเสียฉุกเฉิน เป็นผลให้มีการยก-ลากไปยังศูนย์บริการและไม่สามารถซ่อมให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง ผู้ให้บริการจะประสานงานจัดหาสำหรับรถยนต์ทดแทนหรือโรงแรม ที่พักหรือตั๋วยานพาหนะ ขนส่งสาธารณะ อย่างใดอย่างหนึ่งให้กับสมาชิกในระหว่างรอการซ่อมแชมรถยนต์ ในกรณีที่สมาชิกร้องขอ โดยสมาชิกเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย


ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% <br/>ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด <br/>เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย <br/>เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง <br/>จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
จ่ายงวดแรกคุ้มครองเลย

รับกรมธรรม์ได้เลย <br/>ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ<br/>เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



เลือกประกันรถยนต์แบบไหนถึงจะคุ้มที่สุด?

          การเลือกประกันรถยนต์ให้คุ้มค่า ไม่ใช่แค่ดูว่าเบี้ยประกันถูกหรือแพงเท่านั้น แต่ต้องดู ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของเราด้วย เพราะแต่ละคนมีการใช้งานรถไม่เหมือนกัน บางคนขับรถทุกวัน บางคนจอดไว้หน้าบ้าน บางคนเพิ่งถอยรถป้ายแดง หรือบางคนมีงบจำกัด ก็ต้องเลือกให้ตอบโจทย์ ทั้งความคุ้มครองและความคุ้มค่า ไปพร้อมกัน

1.ขับรถบ่อยแค่ไหน?

- ขับรถทุกวัน ใช้งานไกล หรือขับกลางคืน แนะนำให้ เลือกประกันชั้น 1 เพราะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมาก ควรคุ้มครองครบถ้วนทั้งรถเราและรถคู่กรณี
- ขับเฉพาะวันหยุด ใช้แค่ใกล้บ้าน ควรเลือกประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 3+ ก็พอ ครอบคลุมเฉพาะเหตุที่น่ากังวลจริงๆ

2.รถใหม่หรือเก่า?

- รถใหม่ป้ายแดง / ยังผ่อนไม่หมด  แนะนำประกันชั้น 1 คุ้มครองรอบด้าน ช่วยให้หมดห่วงถ้าเกิดรอยขีดข่วนหรือชนเล็กน้อย
- รถ 5 ปีขึ้นไป ทำประกันชั้น 2+ หรือ 3+ คุ้มครองเพียงพอเมื่อเทียบกับมูลค่ารถ
- รถเก่ามากกว่า 10 ปี เลือกประกันชั้น 3 หรือ 3+ เหมาะสมกับงบประมาณ ไม่เกินความจำเป็น

3.งบประมาณอยู่ที่เท่าไหร่?

- ถ้างบไม่ใช่ปัญหา ซื้อประกันชั้น 1 คือที่สุดของความอุ่นใจ
- ถ้าต้องประหยัด ทำประกันชั้น 3+ เป็นทางเลือกที่ให้ความคุ้มครองแบบประหยัด แต่ยังดูแลเมื่อชนกับรถคันอื่น
*แนะนำเพิ่มเติม ให้เลือกประกันที่สามารถ ผ่อน 0% ได้ จะช่วยให้ได้ประกันดีในราคาที่จ่ายไหว เช่น ผ่าน OOHOO.io

4.มั่นใจในทักษะการขับขี่แค่ไหน?

- มือใหม่เพิ่งเริ่มขับ หรือคนที่ไม่ค่อยมั่นใจ ให้เลือกประกันรถยนต์ที่มี คุ้มครองกรณีไม่มีคู่กรณี เช่น ขูดเสา หรือถอยชน
- ขับขี่เก่ง มั่นใจไม่ชนง่าย  อาจเลือกประกันชั้น 2+ หรือ 3+ ที่ราคาย่อมเยากว่า

5.ต้องการบริการเสริมอะไรบ้าง?
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.
- ค่าซ่อมศูนย์ หรืออู่มาตรฐาน
- มี Call Center ที่ติดต่อได้ตลอด
- ซื้อออนไลน์ง่าย มีแอปหรือเว็บไซต์รองรับ
*แนะนำเพิ่มเติม ประกันรถยนต์ราคาถูก อาจไม่มีบริการเสริมพวกนี้ ให้ดูรายละเอียดแต่ละแผนให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ         

          ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนดี…ให้ OOHOO.io ช่วยเปรียบเทียบให้ ทางลัดที่ช่วยให้คุณได้ประกันคุ้มค่าที่สุดในงบที่มี แพลตฟอร์มอย่าง OOHOO.io เปรียบเทียบเบี้ยจากหลายบริษัทในหน้าจอเดียว ดูรีวิว, ความคุ้มครอง, เงื่อนไขได้ครบ พร้อมกดซื้อทันที มีผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน 

บทความที่น่าสนใจ
เคล็ดลับเลือกประกันรถยนต์ ตามไลฟ์สไตล์การขับขี่

บริษัทประกันที่น่าสนใจเบี้ยถูก ทุนประกันสูง
อู้หู รู้หรือไม่ ประกันรถยนต์ที่ดี หน้าตาเป็นยังไง?
ทำไมต้องเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ ชั้น 1 โตโยต้า ทุนประกันสูง ผ่อน 10 เดือน