เบี้ยประกันรถยนต์ ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร?

เบี้ยประกันรถยนต์ ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร?

เมื่อคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ชั้น 2+, หรือชั้น 3+ สิ่งหนึ่งที่ผู้เอาประกันทุกคนกังวลที่สุดคือ ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ ว่าจะถูกหรือแพง แต่จริง ๆ แล้วราคาประกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคหรือความรู้สึกเท่านั้น มาดูกันว่าปัจจัยไหนบ้างที่ทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์แตกต่างกัน
1. ประเภทของประกันรถยนต์
สิ่งนี้เป็นจุดแรกที่ส่งผลต่อราคาโดยตรง เพราะยิ่งความคุ้มครองมาก ค่าเบี้ยก็สูงขึ้น
     -  ประกันชั้น 1 – ครอบคลุมทั้งรถคุณและคู่กรณี มักมีค่าเบี้ยสูงที่สุด
     -  ประกันชั้น 2+ – คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีและรถคุณบางกรณี ค่าเบี้ยถูกกว่าชั้น 1
     -  ประกันชั้น 3+ – คุ้มครองคู่กรณีเป็นหลัก ค่าเบี้ยต่ำที่สุด แต่ความคุ้มครองน้อย
2. ประวัติผู้ขับขี่
บริษัทประกันจะดู ประวัติการเคลม, ประวัติอุบัติเหตุ, อายุผู้ขับขี่
     -  ผู้ที่มีประวัติขับขี่ดี เบี้ยมักถูก
     -  ผู้ที่มีเคลมบ่อย หรืออายุน้อย เบี้ยจะสูงขึ้น
3. ประเภทและอายุรถ
     -  รุ่นรถ – รถสปอร์ต รถนำเข้าหรือ SUV มักมีค่าเบี้ยสูงกว่า รถทั่วไป
     -  อายุรถ – รถใหม่ค่าเบี้ยอาจสูง แต่บางครั้งคุ้มครองแบบครบวงจร ส่วนรถเก่าอาจลดเบี้ยลงตามมูลค่ารถ

4. ระยะทางการใช้งานและพื้นที่จอดรถ
     -  รถใช้งานประจำทุกวัน ค่าเบี้ยจะสูงกว่า
     -  รถจอดในบ้านหรือคอนโดที่มีระบบรักษาความปลอดภัย ค่าเบี้ยอาจลดลง
5. ความคุ้มครองเสริม
หลายบริษัทเสนอ ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ถูกหรือแพง ตามความคุ้มครองเสริม เช่น
     -  ประกันรถหาย
     -  ประกันภัยน้ำท่วม
     -  รถเสียฉุกเฉิน
6. วิธีทำให้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ถูกลง
     -  เปรียบเทียบหลายบริษัทก่อนซื้อ
     -  ใช้รถอย่างระมัดระวัง ลดความเสี่ยงเคลม
     -  เลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง
     -  ตรวจสอบโปรโมชั่นประกันรถยนต์ออนไลน์

สรุป
ค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ จะถูกหรือแพงไม่ได้วัดกันที่แค่ราคา แต่ขึ้นอยู่กับ ประเภทประกัน, ประวัติผู้ขับ, รุ่นรถ, ความคุ้มครองเสริม และการใช้งานรถ การเลือกประกันที่เหมาะสมและเปรียบเทียบราคาอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณได้ ประกันรถยนต์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด