คนละครึ่ง 2568 วิธีลงทะเบียน, กลุ่มสิทธิ, วงเงิน และคำแนะนำสำหรับผู้บริโภค

คนละครึ่ง 2568 วิธีลงทะเบียน, กลุ่มสิทธิ, วงเงิน และคำแนะนำสำหรับผู้บริโภค

30 Sep 2025

คนละครึ่ง 2568 โครงการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก
     โครงการ คนละครึ่ง 2568 (มักถูกเรียกว่า “คนละครึ่ง พลัส” ในสื่อบางฉบับ) เป็นมาตรการภาครัฐที่ตั้งใจช่วยกระตุ้นการจับจ่ายของประชาชนและเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย โดยรัฐร่วมจ่ายเมื่อประชาชนซื้อสินค้า บริการ หรืออาหารผ่านช่องทางดิจิทัลที่กำหนด (เช่น แอปเป๋าตังและแอปถุงเงินสำหรับร้านค้า) รูปแบบสิทธิและสัดส่วนการอุดหนุนมีหลายแบบตามกลุ่มเป้าหมาย (เช่น 50:50 หรือ 60:40) ขึ้นกับกลุ่มผู้รับสิทธิ์ที่รัฐบาลกำหนดไว้ในรอบปี 2568

วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในระดับฐานราก โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย เช่น แผงลอย ร้านอาหารขนาดเล็ก และร้านค้าชุมชน
2. ขยายการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล (กระตุ้นการใช้งานแอป เป๋าตัง/ถุงเงิน) เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและติดตามการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
3. ช่วยฟื้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในช่วงไตรมาสปลายปี (พฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 ถูกกล่าวถึงเป็นช่วงใช้จ่ายหลัก) โดยคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี

กลุ่มผู้ได้รับสิทธิและวงเงิน
     ตามการรายงานของสื่อและประกาศเบื้องต้น โครงการแบ่งกลุ่มผู้ได้รับสิทธิออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ (ตัวเลขและรายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีประกาศทางการจากกระทรวงการคลัง) ขอยกตัวอย่างกลุ่มตามข้อมูลข่าวล่าสุดดังนี้:
1. กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับวงเงินรวมประมาณ 2,000 บาท (โดยมีการเติมเงินเพิ่มจากเดิม) ใช้ได้ในช่วงเวลาที่กำหนด (ใช้ได้ในช่วง พ.ย.–ธ.ค. 2568)
2. กลุ่มประชาชนทั่วไป  (ไม่ใช่ผู้เสียภาษี หรือกลุ่มทั่วไป)ได้รับสิทธิในรูปแบบ คนละครึ่ง 50:50 โดยมีวงเงินรวมต่อคน 2,000 บาท และข้อจำกัดการใช้จ่ายต่อวัน (ไม่เกิน 200 บาทต่อวัน)
3. กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  : ในรอบนี้มีการพูดถึงสิทธิแบบ 60:40 (รัฐจ่าย 60% ประชาชนจ่าย 40%) สำหรับผู้ที่อยู่ในระบบภาษี เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนที่จ่ายภาษีมีสิทธิเข้าร่วมรูปแบบพิเศษ


ข้อควรทราบ: จำนวนสิทธิ์/วงเงิน/เงื่อนไขใช้งาน (เช่น ขีดจำกัดต่อวัน ระยะเวลาใช้จ่าย) มีการอัปเดตจากประกาศของรัฐบาลและช่องทางลงทะเบียน ควรตรวจสอบหน้าข่าว/หน้าเว็บทางการหรือช่องทาง “คนละครึ่ง” และธนาคารที่เกี่ยวข้องก่อนลงทะเบียน/ใช้สิทธิ

ระยะเวลาโครงการและช่วงใช้จ่าย
     จากข่าวสารล่าสุด คาดว่าโครงการอาจเปิดให้ ใช้สิทธิได้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2568 และมีระยะเวลาการใช้จ่ายหลักในช่วง พฤศจิกายน–ธันวาคม 2568 (แต่ต้องรอติดตามประกาศทางการเพื่อยืนยันวันที่แน่นอนของการเปิดลงทะเบียนและการใช้จ่าย)

วิธีการลงทะเบียนและช่องทางใช้งาน
1. ช่องทางสำหรับประชาชน : ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หลักที่รัฐบาลกำหนด (เช่น www.คนละครึ่ง.com ตามรอบการเปิดรับสมัคร) หรือผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง (G-Wallet) ซึ่งต้องผูก/ยืนยันตัวตนและเติมเงินตามเงื่อนไขก่อนใช้งาน
2. ช่องทางสำหรับร้านค้า/ผู้ขาย : ร้านค้าเข้าร่วมต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เดียวกันหรือผ่านสาขาธนาคารที่กำหนด (เช่น ธนาคารกรุงไทย) และใช้แอป ถุงเงิน เพื่อรับการชำระผ่านสิทธิโครงการ
3. การยืนยันสิทธิและการใช้จ่าย : หลังลงทะเบียนสำเร็จ ผู้ใช้จะต้องยืนยันสิทธิผ่านแอป/ระบบที่ระบุ และเมื่อใช้จ่ายจะมีการตัดสิทธิส่วนที่รัฐสนับสนุนตามสัดส่วนทันที ระบบจะคำนวณยอดที่รัฐช่วยจ่ายและยอดที่ประชาชนต้องจ่ายส่วนที่เหลือ ณ เวลาชำระเงิน



ซื้อประกันรถยนต์ที่ OOHOO ดีอย่างไร

ผ่อนเงินสด 0% ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

ผ่อนเงินสด 0%
ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้

การันตีราคาถูกที่สุด เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

การันตีราคาถูกที่สุด
เจอที่อื่นถูกกว่าเราพร้อมคืนเงินทันที

เปรียบเทียบได้เลย เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

เปรียบเทียบได้เลย
เช็คราคา ความคุ้มค่าก่อนสั่งซื้อ

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง
ไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่โทรตาม

รับกรมธรรม์ได้เลย ผ่านระบบออนไลน์

รับกรมธรรม์ได้เลย
ผ่านระบบออนไลน์

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ

เจ้าหน้าที่พร้อมบริการด้วยใจ
เมื่อคุณต้องการคำแนะนำ



     โครงการ คนละครึ่ง 2568 เป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายและฟื้นรายได้ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นในช่วงปลายปี 2568 แต่รายละเอียดเชิงปฏิบัติ เช่น เงื่อนไขการลงทะเบียน ระยะเวลา และวงเงินเฉพาะกลุ่มอาจมีการประกาศ/ปรับเปลี่ยนได้ ดังนั้นผู้สนใจควรติดตามประกาศจากเว็บไซต์ทางการและสื่อที่เชื่อถือได้ก่อนดำเนินการลงทะเบียนหรือใช้สิทธิ

     “ก่อนใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง 2568 และวางแผนการจับจ่ายช่วงปลายปี อย่าลืมตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์รถของคุณ การต่อประกันรถยนต์ทันเวลาไม่เพียงเป็นข้อบังคับตามกฎหมายสำหรับบางกรณี แต่ยังช่วยคุ้มครองคุณจากความเสี่ยงไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุ หรือความเสียหายต่อทรัพย์สิน อีกทั้งการต่อออนไลน์กับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ (เช่น OOHOO.IO) ช่วยให้คุณเปรียบเทียบแผน ค้นหาความคุ้มครองที่เหมาะสม และรับข้อเสนอราคาที่ประหยัดกว่าได้ในไม่กี่คลิก