4 ข้อสำคัญก่อนซื้อที่นั่งคาร์ซีท ฉบับผู้ปกครองมือใหม่

ไอเท็มที่พ่อแม่หลายคนมองข้ามอย่างที่นั่งคาร์ซีทเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในรถยนต์ของลูกน้อย ควรเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่ต้องมีติดรถยนต์เอาไว้ หลังจากมีผลประกาศใช้กฏหมายคาร์ซีท พ.ร.บ.จราจรทางบก บังคับใช้ตั้งเเต่วันที่  5 กันยายน 2565 ผู้ปกครองต้องมีที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก รวมถึงหาวิธีป้องกันอุบัติเหตุสำหรับเด็กที่โดยสารบนรถ จากสถิติส่วนใหญ่เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เด็กเล็กมีโอกาสเสียชีวิตถึง 70% หากไม่ได้รับการป้องกันอย่างถูกวิธี พ่อแม่หรือผู้ปกครองมือใหม่ ควรเตรียมการไว้เพื่อความปลอดภัย เพิ่มความอุ่นใจหากต้องเดินทางด้วยรถยนต์กับ 4 ข้อสำคัญก่อนซื้อที่นั่งคาร์ซีท 

นอกจากนี้ควรซื้อประกันภัยรถยนต์ติดรถยนต์เอาไว้ เพิ่มคุ้มครองให้ลูกน้อยเป็นสองเท่า  หากใครยังไม่มั่นใจเรื่องประกันรถยนต์ที่ให้คุ้มครองได้มากกว่า ควรซื้อประกันภัยชั้น 1 ให้ความคุ้มครองสูงสุด แต่หากยังไม่รู้ว่าจะซื้อ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี  Mr.OOHOO แนะนำให้มาเลือกดูประกันภัยรถยนต์ได้ที่ OOHOO.io ของเราเลยครับ สามารถเทียบราคา เช็คความคุ้มค่าด้วยตัวเองง่ายๆผ่านระบบออนไลน์ ผ่อน 0% แม้ไม่มีบัตรเครดิต 

หลักการง่ายๆก่อนตัดสินใจซื้อที่นั่งคาร์ซีทสำหรับเด็ก มีอะไรบ้าง มาดูกัน!

1. เลือกที่นั่งคาร์ซีทให้เหมาะกับวัยลูกน้อย
วิธีในการเลือกซื้อคาร์ซีทขั้นตอนแรก ควรสังเกตุจากอายุ ส่วนสูง และน้ำหนัก/ขนาดตัวของลูกน้อยเพื่อให้ขนาดที่นั่งคาร์ซีทพอดีกับขนาดตัวลูกน้อย เเบ่งช่วงวัยออกได้ 3 ระดับ ดังนี้
- วัยทารก(Baby) อายุเเรกเกิด ตั้งเเต่ 0-15 เดือน ส่วนสูง 40-83 เซนติเมตร น้ำหนัก 0-13 กิโลกรัม
- วัยหัดเดิน(Toddler) มีอายุตั้งเเต่ 9 เดือน - 4 ปี ส่วนสูง 61-105 เซนติเมตร น้ำหนัก 9-18 กิโลกรัม
- วัยเด็กเล็ก(Child) อายุ 3-12 ปี ส่วนสูง 100-150 เซนติเมตร น้ำหนัก 15-35 กิโลกรัม

2. การติดตั้งของตำแหน่งคาร์ซีท
ในปัจจุบันมีสินค้าคาร์ซีทถูกผลิตออกมามากมายหลายเจ้า แต่สิ่งที่ควรคำนึงเป็นอันดับต้นๆคือวิธีการติดตั้งและตำแหน่งของคาร์ซีทในรถยนต์  โดยตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ เบาะหลังระหว่างที่นั่งฝั่งซ้าย - ขวาเพื่อป้องกันการกระเเทกของถุงลมนิรภัยหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งนี้ ระบบการติดตั้งของคาร์ซีทก็มีผลต่อความปลอดภัยของเด็กมากด้วยเช่นกัน 
ลักษณะการติดตั้งคาร์ซีทแบ่งออกเป็น  2 รูปแบบ คือ
- Rearward Facing Seats ติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ โดยสามารถนั่งข้างคนขับได้ แต่ในกรณีที่มีการปิดการทำงานของระบบถุงลมนิรภัยแล้วเท่านั้น
- Forward Facing Seats ซีทที่หันหน้าออกจากเบาะ ควรติดตั้งตรงที่นั่งเบาะหลัง หรือหากมีความจำเป็นต้องติดตั้งข้างคนขับ ควรมีระยะห่างจากถุงลมนิรภัยให้มากที่สุด 

3.ฟังก์ชันอำนวยความสะดวก
ฟังก์ชันสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน ทั้งตัวเด็กเล็ก และผู้ปกครองเอง ไม่ว่าจะเป็นการปรับองศา ให้เอนนอนได้ง่าย หรือหมุนได้ 360 องศา สามารถทำความสะอาดได้สะดวก รวมทั้งประกอบติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานที่ต้องการเป็นหลัก เพราะทุกการเดินทางมีผลกับความปลอดภัยและสะดวกสบาย ของลูกน้อยเสมอ คุณพ่อ คุณแม่หรือผู้ปกครอง อย่าลืมนึกถึงการใช้งานที่ตอบสนองของตัวเองและลูกรักกันด้วยนะครับ 

4.ตรวจเช็คมาตรฐานสากลของคาร์ซีท
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ สิ่งที่ควรรู้ไว้คือ มาตรฐานสากลของคาร์ซีทเพื่อการันตีความปลอดภัยของเด็ก โดยจะต้องมีป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 เป็น มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท สังเกตได้จากป้ายสีส้มและแสดงข้อมูลในการผลิต ดังนี้
- แสดงประเภท (Category) ของเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก
- แสดงน้ำหนักที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้งาน (Weight class)
- “Y” แสดงชนิดของเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุดที่มีสายรัดเป้า
- ตัวบ่งชี้ว่าเป็นยุโรปอนุมัติ
- ตัวบ่งชี้สำหรับประเทศที่ได้รับความเห็นชอบ  (1 = เยอรมนี, 2 = ฝรั่งเศส, 3 = อิตาลี, 4 = เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ )
- หมายเลขการอนุมัติ ประกอบด้วยตัวเลข 8 หลัก ในกรณีนี้คือ ECE R 44/04 เลขที่ปัจจุบัน

4 ข้อสำคัญก่อนซื้อที่นั่งคาร์ซีท สำหรับพ่อแม่หรือผู้ปกครองมือใหม่กำลังมองหาที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเล็กเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน แต่ยังต้องการหลักประกันเพื่อความอุ่นใจ  ยังสงสัยตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ก็ต้อง OOHOO.io เท่านั้นครับ แต่ถ้าหากไม่อยากเสียเวลาต่อสายโทรหาเจ้าหน้าที่ประกัน ก็สามารถเลือกซื้อประกันกับเราได้ เพราะอู้หู ประกันออนไลน์ ไม่โทรกวนใจ จบง่ายในเว็บเดียว รับประกันความคุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มครองสูงสุด  รับกรมธรรม์ได้เลยผ่านระบบออนไลน์ ที่สำคัญผ่อนเงินสด 0 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องกังวลเรื่องบัตรเครดิต ความปลอดภัยของลูกรักคือที่หนึ่งของพ่อแม่เสมอ